ประกันรถยนต์ชั้น 1 VS ชั้น 2+ เลือกแบบไหนดี

ประกันรถยนต์ชั้น 1 VS ชั้น 2+ เลือกแบบไหนดี

    เมื่อพูดถึง “ประกันรถยนต์” หลายคนมักจะสับสนว่าจะเลือกทำประกันชั้นไหนดีระหว่างประกันชั้น และชั้น 2+ เพราะทั้งสองรูปแบบต่างก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะผู้ที่มีงบประมาณจำกัด หรือเพิ่งออกรถใหม่ ก็อาจลังเลกับทางเลือกนี้ 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างประกันรถยนต์ชั้น 1 และชั้น 2+ พร้อมแนะนำแนวทางการเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณของคุณ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกประกันได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด 

ทำความรู้จักกับประกันรถยนต์ชั้น 1 และชั้น 2+

ทำความรู้จักกับประกันรถยนต์ชั้น 1 และชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น และชั้น 2+ เป็นรูปแบบประกันภาคสมัครใจที่นิยมในประเทศไทย โดยมีลักษณะการคุ้มครองที่แตกต่างกันดังนี้: 

ประกันรถยนต์ชั้น 1:

    • คุ้มครองรถของผู้เอาประกันในทุกกรณี ทั้งอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี 
    • คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน บุคคลภายนอก และรถของผู้เอาประกันเอง 
    • คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม 
    • เหมาะสำหรับรถใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด 

ประกันรถยนต์ชั้น 2+:

    • คุ้มครองในกรณีที่มีคู่กรณีและทราบทะเบียนรถของคู่กรณีเท่านั้น 
    • คุ้มครองความเสียหายจากรถชน รถหาย และไฟไหม้ 
    • ไม่คุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี หรือกรณีเฉี่ยวชนแล้วหนี 
    • เหมาะสำหรับรถที่มีอายุเกิน ปี หรือต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน 
เปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 และ 2+

เปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 และ 2+

การเลือกประกันที่เหมาะสมควรดูจากความคุ้มครองที่ได้รับเป็นสำคัญ ซึ่งสามารถสรุปเปรียบเทียบได้ดังนี้: 

รายการคุ้มครอง 

ประกันชั้น 1 

ประกันชั้น 2+ 

คุ้มครองรถของผู้เอาประกัน (กรณีไม่มีคู่กรณี) 

 

 

คุ้มครองรถของผู้เอาประกัน (กรณีมีคู่กรณี) 

 

 

รถหาย/ไฟไหม้ 

 

 

ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 

 

 

ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ 

 

 

ค่าเสียหายทรัพย์สินบุคคลภายนอก 

 

 

ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ (ขึ้นอยู่กับบริษัท) 

* 

* 

* = ต้องตรวจสอบรายละเอียดแต่ละบริษัทประกันอีกครั้ง 

จะเห็นได้ว่าประกันชั้น คุ้มครองครอบคลุมกว่าอย่างชัดเจน แต่ก็แลกมาด้วยเบี้ยประกันที่สูงกว่า ในขณะที่ประกันชั้น 2+ คุ้มครองเฉพาะกรณีหลัก ๆ และมีข้อจำกัดเรื่องอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี 

ใครควรเลือกประกันชั้น 1 และใครเหมาะกับชั้น 2+

ใครควรเลือกประกันชั้น 1 และใครเหมาะกับชั้น 2+

การเลือกประกันรถยนต์ควรพิจารณาจากพฤติกรรมการขับขี่ ประเภทของรถ และงบประมาณ โดยเราสามารถแบ่งกลุ่มที่เหมาะกับแต่ละประเภทของประกันได้ดังนี้: 

ผู้ที่เหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 1:

    • รถยนต์ใหม่ป้ายแดงหรืออายุไม่เกิน ปี 
    • ขับขี่ในเมืองใหญ่ การจราจรหนาแน่น มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง 
    • ต้องการความมั่นใจและลดความเสี่ยงในทุกกรณี 
    • ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ขับรถมากนัก หรือขับขี่ไม่มั่นใจ 
    • รถยนต์ราคาแพงที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ 

ผู้ที่เหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 2+:

    • รถยนต์ที่มีอายุ ปีขึ้นไป 
    • ผู้ขับขี่มีประสบการณ์และขับขี่อย่างระมัดระวัง 
    • ใช้รถไม่บ่อย เช่น ขับเฉพาะวันหยุด 
    • มีงบประมาณจำกัดแต่ยังต้องการความคุ้มครองในระดับหนึ่ง 
    • ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยสูง แต่ก็ไม่ต้องการประกันชั้น เท่านั้น 
ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ แตกต่างกันแค่ไหน?

ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ แตกต่างกันแค่ไหน?

เบี้ยประกันเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายคนลังเลว่าจะเลือกชั้นไหนดี โดยทั่วไปแล้ว: 

    • เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1: เริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 – 30,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ ยี่ห้อ อายุรถ และผู้ขับขี่ 
    • เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 2+: เริ่มต้นที่ประมาณ 6,000 – 12,000 บาทต่อปี ซึ่งถูกกว่าชั้น อย่างเห็นได้ชัด 

นอกจากนี้ หลายบริษัทประกันยังมีโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษ เช่น 

    • ผ่อน 0% สูงสุด 10-12 เดือน 
    • ส่วนลดประวัติดี (ไม่มีเคลม) 
    • แถมประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 
เลือกบริษัทประกันให้เหมาะสมและมั่นใจ

เลือกบริษัทประกันให้เหมาะสมและมั่นใจ

    เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกประกันรถยนต์ชั้น หรือ 2+ ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ บริการหลังการขายดี และมีรีวิวเชิงบวกจากผู้ใช้จริง 

    บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด นอกจากให้บริการด้านสินเชื่อโฉนดที่ดินแล้ว ยังเป็นตัวกลางช่วยลูกค้าเลือกประกันรถยนต์ชั้นนำจากหลายบริษัท พร้อมบริการผ่อนเงินสด 0% สูงสุด 12 งวด เพื่อช่วยให้ลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันได้สะดวกมากขึ้น 

หากคุณไม่แน่ใจว่าประกันแบบใดเหมาะกับคุณ ทาง “เพื่อนแท้” ก็มีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายบริษัทเพื่อให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าที่สุด 

สรุป

การเลือก “ประกันรถยนต์” ไม่มีแบบไหนดีที่สุดในภาพรวม เพราะขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของผู้ใช้แต่ละคน 

    • หากคุณต้องการความคุ้มครองสูงสุด ไม่ต้องกังวลแม้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี และมีงบประมาณเพียงพอ ประกันชั้น คือตัวเลือกที่ดีที่สุด 
    • หากคุณต้องการคุ้มครองเฉพาะกรณีจำเป็น มีคู่กรณีแน่นอน และต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย ประกันชั้น 2+ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว 

สุดท้าย อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ของแต่ละบริษัทก่อนตัดสินใจ และหากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ทั้งเรื่องสินเชื่อและประกันภัย ติดต่อ “บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด” ได้เลย เราพร้อมเป็นเพื่อนแท้ทางการเงินของคุณในทุกเส้นทาง 

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม