เมื่อพูดถึงการทำ ประกันรถยนต์ หลายคนอาจรู้สึกสับสนว่าทำไมเบี้ยประกันของตนเองถึงต่างจากคนอื่น ทั้งที่ใช้รถรุ่นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน หรือแม้กระทั่งปีเดียวกัน บางคนจ่ายเพียงไม่กี่พันบาทต่อปี แต่บางคนกลับจ่ายเป็นหมื่น ทั้งหมดนี้เกิดจากหลากหลายปัจจัยที่บริษัทประกันใช้ในการประเมินความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
บทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับเบื้องหลังของการคำนวณเบี้ยประกันรถยนต์ ว่ามีองค์ประกอบใดบ้างที่ทำให้ราคาสูงหรือต่ำ พร้อมทั้งแนะนำเคล็ดลับในการเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานจริง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่าและมั่นใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเลือกใช้บริการกับบริษัทที่เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง เช่น เพื่อนแท้ เงินด่วน ที่พร้อมให้คำแนะนำด้านสินเชื่อและประกันภัยแบบมืออาชีพ
ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเบี้ยประกันรถยนต์
เบี้ยประกันรถยนต์ คือจำนวนเงินที่เจ้าของรถต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อคุ้มครองรถยนต์ของตนเองในระยะเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปคือ 1 ปี โดยประกันจะคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย บุคคลภายนอก และตัวรถยนต์เองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุไม่คาดฝันต่างๆ
แต่หลายคนอาจสงสัยว่า “ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ถึงไม่เท่ากัน?” บางคนขับรถเหมือนกัน รุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน แต่เบี้ยกลับต่างกันหลายพันบาท หรือแม้กระทั่งหลายหมื่นบาท ซึ่งความจริงแล้ว การคำนวณเบี้ยประกันไม่ได้อิงแค่ราคาของรถ แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่บริษัทประกันใช้ประเมินความเสี่ยง
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกันรถยนต์
- อายุและประสบการณ์ของผู้ขับขี่ ผู้ที่มีอายุน้อย เช่น อายุระหว่าง 18-25 ปี มักถูกมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงเนื่องจากขาดประสบการณ์ในการขับขี่ ทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ของกลุ่มนี้มักสูงกว่าผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-50 ปี
- ประวัติการเคลมประกัน หากคุณมีประวัติการเคลมประกันบ่อยครั้งในอดีต เบี้ยประกันปีถัดไปก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เพราะบริษัทประกันจะมองว่าคุณเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ในทางกลับกัน หากคุณไม่มีประวัติเคลมเลย อาจได้รับส่วนลด No Claim Bonus หรือส่วนลดประวัติดี
- รุ่นรถและมูลค่าของรถ รถยนต์ที่มีมูลค่าสูง เช่น รถหรู รถนำเข้า หรือรถสปอร์ต จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงตาม เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่สูง รวมถึงโอกาสในการเกิดความเสียหายหรือถูกโจรกรรมก็สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
- ประเภทของประกันภัย ประกันภัยรถยนต์มีหลายประเภท เช่น ประกันชั้น 1, 2+, 3+ และชั้น 3 โดยทั่วไปประกันชั้น 1 จะมีค่าเบี้ยแพงที่สุด เพราะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากตัวเราเองและผู้อื่น ในขณะที่ประกันชั้น 3 จะราคาถูกแต่ให้ความคุ้มครองน้อย
- การใช้งานของรถ รถที่ใช้งานในเชิงพาณิชย์ หรือใช้งานประจำวันบนท้องถนนบ่อยๆ เช่น รถแท็กซี่ รถส่งของ รถรับจ้าง มักถูกจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง จึงมีค่าเบี้ยที่แพงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้งานเฉพาะในครอบครัวหรือเดินทางทั่วไป
ประกันรถยนต์แบบไหนที่เหมาะกับคุณ
การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งาน ความต้องการคุ้มครอง และงบประมาณของคุณ:
- ประกันชั้น 1: เหมาะสำหรับรถใหม่ หรือรถราคาแพง ให้ความคุ้มครองครอบคลุมที่สุดทั้งรถเราและรถคู่กรณี
- ประกันชั้น 2+: คุ้มครองรถเราในกรณีชนกับยานพาหนะ และคุ้มครองรถคู่กรณีด้วย แต่ไม่คุ้มครองกรณีไม่มีคู่กรณี
- ประกันชั้น 3+: เหมาะกับรถที่อายุมากหรือใช้น้อย โดยให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกและคู่กรณีเท่านั้น
- ประกันชั้น 3: เหมาะกับรถเก่ามากๆ ใช้งานน้อย ต้องการคุ้มครองแค่ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
กลยุทธ์ลดเบี้ยประกันรถยนต์แบบไม่ลดความคุ้มครอง
หลายคนต้องการลดค่าใช้จ่ายประกันรถยนต์โดยไม่ลดความคุ้มครอง ซึ่งสามารถทำได้โดย:
- เปรียบเทียบราคา: ควรเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ
- เลือกซ่อมอู่หรือซ่อมห้างให้เหมาะสม: ซ่อมอู่มักมีเบี้ยถูกกว่าซ่อมห้าง
- ติดกล้องหน้ารถ: บางบริษัทให้ส่วนลดเพิ่มหากมีกล้องบันทึกเหตุการณ์
- ลดทุนประกันเล็กน้อย: หากรถมีอายุ 4-5 ปีขึ้นไป อาจพิจารณาลดทุนประกันลงเพื่อลดเบี้ย
- ใช้บริการจากบริษัทที่มีโปรโมชันร่วม: เช่น บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ที่มีพันธมิตรกับโบรกเกอร์ประกันภัย พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรี และโปรโมชั่นผ่อน 0% สำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างยืดหยุ่น
บทบาทของบริษัทประกันภัยและโบรกเกอร์ในการกำหนดราคา
บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งมีนโยบายการประเมินความเสี่ยงไม่เหมือนกัน บางแห่งเน้นข้อมูลสถิติ บางแห่งเน้นประวัติลูกค้า ทำให้เบี้ยประกันที่เสนออาจแตกต่างกัน
การมีโบรกเกอร์เข้ามาช่วยเปรียบเทียบและแนะนำประกันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าจึงเป็นเรื่องที่คุ้มค่า เช่นเดียวกับบริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และจำนองโฉนดที่ดินเท่านั้น แต่ยังมีบริการเสริมด้านประกันภัย โดยคัดสรรแผนประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมและมีราคาสมเหตุสมผล พร้อมบริการผ่อนเบี้ย 0% สูงสุดถึง 12 งวด และไม่มีค่าใช้จ่ายจดทะเบียนกรมธรรม์เพิ่มเติม
สรุป: ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ถึงไม่เท่ากัน
เบี้ยประกันรถยนต์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุของผู้ขับขี่ ประวัติการเคลม มูลค่าของรถ การใช้งาน หรือแม้กระทั่งความคุ้มครองที่เลือก การเข้าใจองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้เราวางแผนประกันได้อย่างชาญฉลาดและเลือกแบบที่เหมาะสมกับตนเอง
สำหรับใครที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ด้านประกันรถยนต์หรือสินเชื่อโฉนดที่ดินที่ไม่ยุ่งยาก บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด คือคำตอบ ด้วยวงเงินกู้สูงสุดถึง 130% ของราคาประเมิน พร้อมบริการครบวงจรทั้งสินเชื่อและประกัน โดยไม่ต้องไปจดจำนองที่กรมที่ดินให้เสียเวลา