เคล็ดลับต่อประกันรถยนต์อย่างไรให้ได้ราคาดีที่สุด

เคล็ดลับต่อประกันรถยนต์อย่างไรให้ได้ราคาดีที่สุด

    การต่อประกันรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน การเลือกประกันที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายจึงถือเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับการต่อประกันรถยนต์ให้ได้ราคาดีที่สุด และยังคงความคุ้มครองที่เพียงพอต่อการใช้งาน 

เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท

เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท

หนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการต่อประกันรถยนต์ให้ได้ราคาดีคือการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท อย่าต่อกับบริษัทเดิมโดยอัตโนมัติโดยไม่ตรวจสอบราคาจากที่อื่น เพราะแม้แต่บริษัทประกันเจ้าเดิมก็อาจมีโปรโมชั่นเฉพาะลูกค้าใหม่ที่คุณไม่สามารถเข้าถึงได้ 

 

แนวทางในการเปรียบเทียบราคาประกัน: 

  • ใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบประกัน เช่น TQM, EasyCompare, Roojai ฯลฯ 
  • ติดต่อโบรกเกอร์ที่มีเครือข่ายกับหลายบริษัท 
  • ขอใบเสนอราคาจากบริษัทประกันโดยตรงแล้วนำมาเปรียบเทียบ 
  • ตรวจสอบโปรโมชั่นและส่วนลดในช่วงเวลาใกล้วันหมดอายุ 

สิ่งที่ควรพิจารณาในการเปรียบเทียบ: 

  • ประเภทของประกัน (ชั้น 1, 2+, 3+) 
  • ทุนประกันและค่าความเสียหายส่วนแรก 
  • รายการความคุ้มครอง 
  • การบริการเสริม เช่น รถใช้ระหว่างซ่อม, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 
พิจารณาเงื่อนไขการใช้งานรถเพื่อเลือกประเภทประกันที่เหมาะสม

พิจารณาเงื่อนไขการใช้งานรถเพื่อเลือกประเภทประกันที่เหมาะสม

ประกันรถยนต์มีหลายประเภท ตั้งแต่ประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด ไปจนถึงประกันชั้น 3 ที่คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอก การเลือกประกันที่เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่และอายุของรถจะช่วยลดเบี้ยประกันลงได้อย่างมาก 

 

แนวทางเลือกประกันให้เหมาะสม: 

  • รถใหม่ หรือมีมูลค่าสูง: เลือกประกันชั้น 1 เพราะมีความคุ้มครองรอบด้าน 
  • รถอายุ 5-10 ปี: อาจเปลี่ยนเป็นชั้น 2+ หรือ 3+ ถ้าขับรถระมัดระวัง 
  • รถใช้งานน้อย ขับระยะสั้น: ลองพิจารณาแบบจ่ายตามระยะทาง (Pay as you drive) 

ตัวอย่างเงื่อนไขลดราคา: 

  • ขับรถน้อยกว่าปีละ 10,000 กม. ได้รับส่วนลด 10-20% 
  • ติดกล้องหน้ารถเพื่อเป็นหลักฐาน อาจได้ส่วนลดเพิ่มเติม 
  • เลือกไม่ซ่อมอู่ห้าง หรือมีค่าความเสียหายส่วนแรก (Deductible) จะลดเบี้ยได้มาก 
รักษาประวัติขับขี่ให้ดีต่อเนื่อง

รักษาประวัติขับขี่ให้ดีต่อเนื่อง

บริษัทประกันหลายแห่งให้ความสำคัญกับประวัติการเคลมของผู้เอาประกัน หากคุณขับขี่อย่างปลอดภัยและไม่มีการเคลมประกันในปีก่อนหน้า โอกาสที่จะได้รับส่วนลดต่ออายุหรือเบี้ยประกันที่ต่ำลงในปีต่อไปจะสูงขึ้นมาก 

 

วิธีดูแลประวัติการขับขี่: 

  • หลีกเลี่ยงการเคลมเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วนเล็ก ๆ ที่ไม่คุ้มกับการเคลม 
  • ส่งซ่อมเองในกรณีที่ค่าเสียหายต่ำกว่าค่าความเสียหายส่วนแรก 
  • ขับรถอย่างมีวินัย เคารพกฎจราจร 

ตัวอย่างส่วนลดจากประวัติดี: 

  • ขับขี่ปลอดภัย 1 ปี ได้รับส่วนลด 10% 
  • ขับขี่ปลอดภัย 3 ปีขึ้นไป ได้ส่วนลดสูงสุด 20-30% 
เลือกชำระเบี้ยประกันแบบเหมาจ่ายหรือตัดบัตรเครดิต

เลือกชำระเบี้ยประกันแบบเหมาจ่ายหรือตัดบัตรเครดิต

การชำระเบี้ยประกันก็มีผลต่อราคาที่ได้รับเช่นกัน บางบริษัทเสนอส่วนลดพิเศษหากลูกค้าเลือกจ่ายเงินแบบเหมาจ่ายเต็มจำนวน หรือใช้บริการตัดบัญชีอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิต 

 

ข้อดีของการชำระแบบเหมาจ่าย: 

  • ได้ส่วนลดเบี้ยเพิ่ม 5-10% 
  • ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมการผ่อน 
  • จบง่ายไม่ต้องตามชำระหลายงวด 

ข้อดีของการตัดผ่านบัตรเครดิต: 

  • ได้รับคะแนนสะสม (Reward Point) 
  • โปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน 
  • สะดวกและปลอดภัย ลดโอกาสลืมชำระ 

ทั้งนี้ควรตรวจสอบเงื่อนไขให้ชัดเจนก่อนตกลงใช้บริการ เพื่อไม่ให้เสียประโยชน์จากโปรโมชั่นที่อาจมีระยะเวลาจำกัด 

ใช้บริการโบรกเกอร์หรือบริษัทที่มีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเก่า

ใช้บริการโบรกเกอร์หรือบริษัทที่มีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเก่า

โบรกเกอร์ประกันภัยหรือบริษัทประกันบางแห่งมีข้อเสนอพิเศษที่คุณอาจมองข้าม เช่น โปรโมชั่นต่อประกันรถยนต์สำหรับลูกค้าเก่า หรือสิทธิพิเศษเมื่อแนะนำเพื่อนให้สมัครประกันผ่านคุณ 

 

สิทธิพิเศษที่ควรตรวจสอบ: 

  • ส่วนลดต่ออายุสำหรับลูกค้าเดิม 
  • โปรโมชั่นแนะนำเพื่อน รับส่วนลดเพิ่มหรือน้ำมันฟรี 
  • แพ็กเกจผูกประกันรถยนต์กับประกันอื่น เช่น ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันสุขภาพ 

ตัวอย่างบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านบริการ: 

  • วิริยะประกันภัย 
  • กรุงเทพประกันภัย 
  • ธนชาตประกันภัย 
  • Roojai (ออนไลน์) 
  • TQM (โบรกเกอร์รายใหญ่) 

สรุป: ต่อประกันรถยนต์ให้คุ้มค่า ไม่ใช่แค่ดูราคาถูก

    การต่อประกันรถยนต์ให้ได้ราคาดีที่สุดไม่ใช่แค่การมองหาเบี้ยประกันที่ต่ำที่สุดเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาเงื่อนไข ความคุ้มครอง และบริการหลังการขายร่วมด้วย เคล็ดลับสำคัญได้แก่ การเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัท เลือกประกันให้เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่ มีประวัติขับขี่ที่ดี เลือกวิธีชำระเงินที่ได้ส่วนลด และใช้สิทธิพิเศษจากโบรกเกอร์หรือบริษัทประกันที่คุณไว้วางใจ 

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม