ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ แตกต่างจากชั้น 1 อย่างไร

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+ และ 3+ แบบเข้าใจง่าย เลือกแบบไหนคุ้มสุด?

    ในการขับขี่บนท้องถนนในประเทศไทย “ประกันรถยนต์” ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้เจ้าของรถรู้สึกอุ่นใจ โดยเฉพาะในกรณีเกิดอุบัติเหตุ การเลือกประเภทประกันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ชั้น 1 ชั้น 2+ และชั้น 3+ แต่ละแบบมีระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะพาไปรู้จักและเปรียบเทียบแบบละเอียด พร้อมแนะนำแนวทางเลือกซื้ออย่างคุ้มค่า 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมที่สุด เหมาะกับใคร?

ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมที่สุด เหมาะกับใคร?

    ประกันชั้น 1 เป็นรูปแบบที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุดในท้องตลาด โดยครอบคลุมทั้งกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดและฝ่ายถูก รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติและการสูญหายของรถยนต์ 

รายละเอียดความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1:

    • คุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันทุกกรณี 
    • คุ้มครองรถคู่กรณี กรณีเกิดอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิด 
    • คุ้มครองกรณีรถสูญหาย ไฟไหม้  
    • คุ้มครองการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บของบุคคลภายนอก 
    • มีบริการรถยกฉุกเฉิน/ส่งซ่อมในอู่ในเครือหรือศูนย์บริการ 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับ :

    • รถใหม่ไม่เกิน 5 ปี 
    • ผู้ขับขี่ที่ต้องการความอุ่นใจสูงสุด 
    • ผู้ที่ใช้รถประจำและมีโอกาสขับขี่ในสภาพถนนที่เสี่ยง 
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ครอบคลุมเกือบเท่าชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยน้อยกว่า

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ครอบคลุมเกือบเท่าชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยน้อยกว่า

ประกันชั้น 2+ เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองมากพอสมควร แต่ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยแพงเท่าชั้น 1 โดยเฉพาะเมื่อรถยนต์เริ่มมีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป 

รายละเอียดความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+

    • คุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น 
    • คุ้มครองรถคู่กรณีเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 
    • คุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้ 
    • ไม่คุ้มครองกรณีชนไม่มีคู่กรณี เช่น ชนเสาไฟ ชนกำแพง 
    • ไม่มีบริการซ่อมกรณีขับชนเองไม่มีคู่กรณี 

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะสำหรับ:

    • รถยนต์ที่มีอายุ 5-10 ปี 
    • ผู้ที่ขับขี่ปลอดภัย มีประสบการณ์ ไม่ต้องการความคุ้มครองเต็มรูปแบบ 
    • ผู้ที่ใช้รถในสภาพถนนที่ไม่เสี่ยงหรือไม่ได้จอดในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ 
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ตัวเลือกคุ้มค่าในราคาประหยัด

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ตัวเลือกคุ้มค่าในราคาประหยัด

ประกันชั้น 3+ เป็นทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่มองหาความคุ้มครองแบบประหยัด เน้นคุ้มครองกรณีชนกับยานพาหนะอื่นเท่านั้น 

รายละเอียดความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3+:

    • คุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันเมื่อชนกับรถยนต์เท่านั้น 
    • คุ้มครองรถคู่กรณี 
    • ไม่คุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้ 
    • ไม่คุ้มครองกรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้หรือสิ่งของ 
    • ค่าเบี้ยประกันถูกที่สุดเมื่อเทียบกับชั้น 1 และ 2+ 

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เหมาะสำหรับ:

    • รถยนต์อายุเกิน 10 ปี 
    • ผู้ที่ขับรถน้อย ใช้รถเฉพาะในพื้นที่ปลอดภัย 
    • ต้องการประหยัดค่าเบี้ยและรับความเสี่ยงบางส่วนเอง 
ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครอง ประกันชั้น 1, 2+ และ 3+

ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครอง ประกันชั้น 1, 2+ และ 3+

รายการความคุ้มครอง 

ชั้น 1 

ชั้น 2+ 

ชั้น 3+ 

คุ้มครองรถของเรา (ชนมีคู่กรณี) 

 

 

 

คุ้มครองรถของเรา (ชนไม่มีคู่กรณี) 

 

 

 

คุ้มครองรถคู่กรณี 

 

 

 

คุ้มครองรถหาย/ไฟไหม้ 

 

 

 

คุ้มครองชีวิต/ทรัพย์สินบุคคลภายนอก 

 

 

 

ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 

 

 

 

ค่าเบี้ยประกันโดยเฉลี่ย 

สูง 

ปานกลาง 

ต่ำ 

จะเลือกประกันรถยนต์แบบไหนดี? เทคนิคเลือกแบบคุ้มค่า

จะเลือกประกันรถยนต์แบบไหนดี? เทคนิคเลือกแบบคุ้มค่า

การเลือก ประกันรถยนต์ ควรพิจารณาตามปัจจัยเหล่านี้: 

  1. อายุของรถยนต์ 
    • รถใหม่ (ไม่เกิน 5 ปี): เหมาะกับชั้น 1 
    • รถอายุ 5-10 ปี: เลือกชั้น 2+ 
    • รถเก่าเกิน 10 ปี: ใช้ชั้น 3+ ประหยัดกว่า 
  2. พฤติกรรมการขับขี่ 
    • ขับบ่อย มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ควรเลือกประกันชั้นสูง 
    • ขับรถน้อย ใช้เฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน เลือกชั้น 2+ หรือ 3+ 
  3. สภาพถนนที่ใช้งานเป็นประจำ 
    • ถนนชำรุด/เสี่ยง: ชั้น 1 
    • ถนนเมืองหลัก มีรถเยอะ: ชั้น 2+ หรือ 3+ 
  4. สถานที่จอดรถ 
    • จอดกลางแจ้ง/พื้นที่เสี่ยง: ชั้น 1 จะครอบคลุมกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม 
    • จอดในบ้าน/อาคาร: ชั้น 2+ หรือ 3+ ก็เพียงพอ 

สรุปท้าย

    ประกันรถยนต์ มีหลากหลายประเภทให้เลือกตามระดับความคุ้มครอง โดยประกันชั้น 1 เหมาะกับรถใหม่และให้ความคุ้มครองสูงสุด ในขณะที่ชั้น 2+ และ 3+ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและประหยัด เหมาะกับรถที่มีอายุการใช้งานมากขึ้นและการขับขี่ที่ปลอดภัยกว่า การเลือกประกันควรพิจารณาจากลักษณะการใช้รถ พื้นที่ที่ขับขี่ และงบประมาณ หากมีปัญหาเรื่องเงินทุนในการต่อประกัน บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน พร้อมให้บริการสินเชื่อด้วยวงเงินสูงและอนุมัติไว ช่วยให้คุณไม่พลาดการคุ้มครองที่สำคัญ 

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม