หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทย หนึ่งในข้อบังคับสำคัญที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า พ.ร.บ. การทำ พ.ร.บ. ไม่ใช่เพียงแค่ข้อกำหนดทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับประกันความคุ้มครองเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือบุคคลภายนอก
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจแบบเจาะลึกเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ประกันรถยนต์ภาคบังคับ ตั้งแต่หลักการเบื้องต้น รายละเอียดความคุ้มครอง เบี้ยประกัน วิธีเลือกบริษัทประกัน ตลอดจนเปรียบเทียบกับประกันภัยภาคสมัครใจ และในช่วงท้ายยังมีแนะนำทางเลือกด้านการเงินอย่าง สินเชื่อโฉนดที่ดิน สำหรับผู้ที่ต้องการจัดการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์อีกด้วย
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) คืออะไร?
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. ย่อมาจาก “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535″ เป็นกฎหมายที่บังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องมี เพื่อให้ความคุ้มครองเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก
ความสำคัญของ พ.ร.บ.
- คุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ
- ลดภาระค่าใช้จ่ายฉุกเฉินด้านการรักษาพยาบาล
- สนับสนุนให้ผู้ประสบเหตุได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง
- ผู้ขับขี่
- ผู้โดยสารภายในรถ
- บุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ
ความคุ้มครองของ พ.ร.บ. และเงื่อนไขต่าง ๆ
แม้ว่า พ.ร.บ. จะเป็นเพียงประกันขั้นพื้นฐาน แต่ก็ให้ความคุ้มครองที่สำคัญในกรณีฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียดดังนี้:
วงเงินคุ้มครองของ พ.ร.บ.
ข้อจำกัดของ พ.ร.บ.
- ไม่คุ้มครองทรัพย์สินที่เสียหาย
- ไม่สามารถเลือกวงเงินเพิ่มเติมได้
- ไม่รวมถึงความเสียหายของรถยนต์ของผู้เอาประกัน
เบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. ประจำปี อัปเดตล่าสุด
ราคาของเบี้ย พ.ร.บ. แตกต่างตามประเภทรถ
ประเภทรถยนต์ | เบี้ยประกันภัยโดยประมาณ (บาท) |
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง | 645 บาท |
รถยนต์โดยสารเกิน 7 ที่นั่ง | 1,182 บาท |
รถกระบะบรรทุก (ไม่เกิน 3 ตัน) | 967 บาท |
รถจักรยานยนต์ไม่เกิน 150cc | 151 บาท |
รถจักรยานยนต์เกิน 150cc | 324 บาท |
หมายเหตุ: ราคาดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายของแต่ละบริษัท
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเบี้ย
- ประเภทของรถ
- ขนาดของเครื่องยนต์
- จำนวนที่นั่ง
- จุดประสงค์การใช้รถ
ข้อแตกต่างระหว่าง พ.ร.บ. กับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
หลายคนเข้าใจผิดว่าการมี พ.ร.บ. เพียงพอแล้ว แต่ในความจริง ประกันภัยภาคสมัครใจ เช่น ประกันชั้น 1, 2+ หรือ 3+ มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า
ประเด็นเปรียบเทียบ | พ.ร.บ. | ประกันภาคสมัครใจ |
บังคับตามกฎหมาย | ✔️ | ❌ |
คุ้มครองชีวิตและร่างกาย | ✔️ | ✔️ (ในวงเงินที่สูงกว่า) |
คุ้มครองทรัพย์สิน | ❌ | ✔️ |
ค่าซ่อมรถของคู่กรณี | ❌ | ✔️ (ขึ้นกับเงื่อนไขกรมธรรม์) |
ค่าซ่อมรถของตนเอง | ❌ | ✔️ (ประกันชั้น 1 เท่านั้น) |
การมีทั้ง พ.ร.บ. และประกันภัยภาคสมัครใจร่วมกันจะช่วยให้คุณอุ่นใจในทุกสถานการณ์
วางแผนค่าใช้จ่าย พ.ร.บ. ด้วย “สินเชื่อโฉนดที่ดิน” ทางออกที่คุ้มค่า
หลายคนอาจมองว่าเบี้ย พ.ร.บ. ไม่สูง แต่หากต้องรวมกับค่าใช้จ่ายในการต่อทะเบียน ค่าประกันภัยภาคสมัครใจ และค่าซ่อมแซมรถยนต์ ก็อาจกลายเป็นภาระที่หนักในช่วงเวลาหนึ่งได้
ทางเลือกทางการเงิน: สินเชื่อโฉนดที่ดินจากเพื่อนแท้ เงินด่วน
บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด มีบริการ สินเชื่อโฉนดที่ดิน ที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนโฉนดให้เป็นเงินสดได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปจดจำนองที่กรมที่ดิน
จุดเด่นของเพื่อนแท้ เงินด่วน:
- ให้วงเงินสูงสุดถึง 130% ของราคาประเมิน
- ไม่ต้องจดจำนองที่กรมที่ดิน
- ดอกเบี้ยโปร่งใส อัตราเป็นธรรม
- ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
- รู้ผลอนุมัติไว พร้อมเบิกเงินทันใจ
ขั้นตอนง่าย ๆ ในการขอสินเชื่อ:
- ประเมินมูลค่าที่ดิน
- เตรียมเอกสาร ได้แก่ โฉนดที่ดินตัวจริง, บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน และบัญชีธนาคาร
- ทำสัญญาเงินกู้
- รออนุมัติและรับเงินทันที
หากคุณต้องการวางแผนต่อ พ.ร.บ. หรือต่อประกันรถยนต์แบบไม่สะดุด “เพื่อนแท้ เงินด่วน” พร้อมเป็นตัวช่วยทางการเงินที่ไว้ใจได้
สรุป: เข้าใจ พ.ร.บ. และเตรียมพร้อมด้วยแผนการเงินที่มั่นคง
พ.ร.บ. คือความคุ้มครองพื้นฐานที่รถทุกคันต้องมีตามกฎหมาย โดยให้ความช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาลและการชดเชยเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย แม้จะไม่ครอบคลุมทรัพย์สินแต่ก็ถือเป็นหลักประกันที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถควรพิจารณาทำประกันภาคสมัครใจร่วมด้วยเพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่มีภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ การเลือกใช้ “สินเชื่อโฉนดที่ดิน” จาก เพื่อนแท้ เงินด่วน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ชาญฉลาด เพราะช่วยให้คุณเปลี่ยนสินทรัพย์ให้กลายเป็นเงินสดพร้อมใช้ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องยุ่งยากกับขั้นตอนทางกฎหมาย