ค่าเสียหายส่วนแรก สิ่งที่คนมีประกันรถยนต์ต้องเข้าใจ

ค่าเสียหายส่วนแรก สิ่งที่คนมีประกันรถยนต์ต้องเข้าใจ

ประกันรถยนต์” คือเครื่องมือที่เจ้าของรถทุกคนควรมี เพราะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดฝันขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถจำนวนไม่น้อยยังสับสนเกี่ยวกับ “ค่าเสียหายส่วนแรก” หรือ Deductible/Excess ซึ่งเป็นข้อกำหนดหนึ่งที่ส่งผลต่อความคุ้มครองและค่าใช้จ่ายเมื่อมีการเคลมประกัน 

     บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับ “ค่าเสียหายส่วนแรก” เพื่อให้สามารถวางแผนการใช้ประกันรถยนต์ได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด โดยเนื้อหาประกอบด้วย 5 หัวข้อหลัก พร้อมยกตัวอย่างและคำแนะนำจริงจากประสบการณ์ของบริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและให้บริการต่อประกันรถยนต์ในรูปแบบผ่อนเงินสด 0% เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงประกันที่ดีได้ง่ายขึ้น 

ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible/Excess) คืออะไร?

ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible/Excess) คืออะไร?

“ค่าเสียหายส่วนแรก” หมายถึง จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบด้วยตนเองก่อนที่บริษัทประกันจะเข้ามารับผิดชอบในส่วนที่เหลือ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 

    • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจ (Voluntary Deductible): เป็นการตกลงกับบริษัทประกันเพื่อจ่ายส่วนแรกเองตามจำนวนที่ระบุ เช่น 1,000 – 5,000 บาท เพื่อแลกกับเบี้ยประกันที่ถูกลง 
    • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับ (Compulsory Deductible): เป็นส่วนที่บริษัทประกันกำหนดในเงื่อนไขกรมธรรม์ เช่น หากคุณเป็นฝ่ายผิด หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ จะต้องจ่ายส่วนแรกเอง 

ตัวอย่างเช่น หากเกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี และคุณมี Deductible อยู่ที่ 2,000 บาท และค่าซ่อมทั้งหมด 15,000 บาท คุณจะต้องจ่ายเอง 2,000 บาท และบริษัทประกันจะจ่ายส่วนที่เหลือ 13,000 บาท 

ทำไมต้องมีค่าเสียหายส่วนแรก?

ทำไมต้องมีค่าเสียหายส่วนแรก?

สาเหตุที่มีค่าเสียหายส่วนแรกนั้น มีจุดประสงค์หลายประการ เช่น 

    1. เพื่อควบคุมจำนวนการเคลมเล็กน้อย 
      บริษัทประกันต้องการหลีกเลี่ยงการเคลมเล็กๆ น้อยๆ เช่น รอยขีดข่วนที่ไม่รุนแรง เพราะค่าดำเนินการประกันอาจสูงกว่าค่าซ่อมจริง 
    2. ป้องกันการใช้สิทธิเกินความจำเป็น 
      หากไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกเลย ลูกค้าอาจใช้สิทธิ์มากเกินไป ส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจประกันภัย 
    3. สร้างวินัยในการขับขี่ 
      เมื่อลูกค้ารู้ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายบางส่วนเอง ก็จะมีความระมัดระวังมากขึ้น 
    4. เพื่อคำนวณเบี้ยประกันให้ยืดหยุ่น 
      หากลูกค้าตกลงที่จะรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกมากขึ้น ก็สามารถขอลดเบี้ยประกันได้ตามสัดส่วน 

ตัวอย่างจริงจากลูกค้าของบริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน ที่เลือกซื้อประกันรถยนต์แบบมีค่าเสียหายส่วนแรก 3,000 บาท ก็สามารถประหยัดเบี้ยประกันได้ถึง 15-20% ต่อปี ทำให้มีเงินเหลือสำหรับผ่อนค่าเบี้ยผ่านบริการของเพื่อนแท้แบบ 0% ได้ง่ายขึ้น 

เคลมประกันแบบไหนต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก?

เคลมประกันแบบไหนต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก?

ไม่ใช่ทุกกรณีของการเคลมประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก โดยสรุปเงื่อนไขการเรียกเก็บได้ดังนี้: 

  1. เคลมไม่มีคู่กรณี (เช่น ชนเสา, ถอยชนรั้ว)
    • ส่วนใหญ่จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ระบุในกรมธรรม์ 
  1. เคลมมีคู่กรณี และคุณเป็นฝ่ายผิด
    • จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (โดยเฉพาะถ้ากรมธรรม์มี Voluntary Deductible) 
  1. เคลมมีคู่กรณี และคุณเป็นฝ่ายถูก
    • โดยปกติไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 
  1. เคลมแบบไม่มีหลักฐาน (เช่น หารถบุบตอนกลับมา แต่ไม่รู้ชนอะไร)
    • มักถูกจัดอยู่ในประเภทไม่มีคู่กรณี ต้องจ่าย Deductible 

เคล็ดลับจากเพื่อนแท้ เงินด่วน: หากคุณไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องจ่าย Deductible หรือไม่ ให้สอบถามศูนย์บริการหรือตัวแทนประกันทันที เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและเตรียมงบประมาณล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม 

วิธีบริหารความเสี่ยงจากค่าเสียหายส่วนแรก

วิธีบริหารความเสี่ยงจากค่าเสียหายส่วนแรก

แม้ว่า Deductible จะช่วยลดเบี้ยประกัน แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องบริหารให้ดี โดยสามารถใช้เทคนิคดังนี้: 

    1. เลือกแผนประกันให้ตรงกับพฤติกรรมการขับขี่ 
      เช่น หากคุณขับรถในเมืองบ่อย มีความเสี่ยงเฉี่ยวชนสูง ควรเลือกแผนที่ไม่มี Deductible หรือมีน้อย 
    2. วางแผนงบประมาณสำรอง 
      ควรเตรียมเงินสดเผื่อไว้เสมออย่างน้อยเท่ากับค่าเสียหายส่วนแรกที่ตกลงไว้ 
    3. ใช้สิทธิ์บริการตรวจเช็คและแจ้งเคลมล่วงหน้า 
      หลายบริษัทประกัน เช่น คู่ค้าของเพื่อนแท้ เงินด่วน มีบริการ Mobile Claim หรือเคลมผ่านแอปพลิเคชัน ช่วยให้ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ก่อนซ่อม 
    4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือตัวแทนประกันก่อนตัดสินใจ 
      ลูกค้าของเพื่อนแท้ เงินด่วนสามารถสอบถามข้อมูลแผนประกันรถยนต์ที่มี Deductible ได้จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมที่สุด 
ทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี ให้คุ้มค่าแม้มีค่าเสียหายส่วนแรก

ทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี ให้คุ้มค่าแม้มีค่าเสียหายส่วนแรก

การเลือกซื้อประกันรถยนต์ควรคำนึงถึงหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ราคาเบี้ยประกันหรือ Deductible อย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรเลือกจาก: 

    • บริษัทประกันที่น่าเชื่อถือและจ่ายเคลมเร็ว 
    • มีบริการหลังการขาย เช่น รถยก, เคลมออนไลน์, ศูนย์ซ่อมมาตรฐาน 
    • มีตัวเลือกให้ปรับ Deductible ได้ตามความต้องการ 
    • สามารถผ่อนค่าเบี้ยได้ ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน 

หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมคือการต่อประกันผ่านบริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ซึ่งให้บริการประกันรถยนต์ทุกประเภท ทั้งชั้น 1, 2+, 3+ พร้อมผ่อนเงินสด 0% นานสูงสุด 12 งวด โดยไม่มีบัตรเครดิต ลูกค้าสามารถเลือกแผนที่มีหรือไม่มี Deductible ได้ตามงบประมาณ พร้อมได้รับคำปรึกษาฟรีจากเจ้าหน้าที่มืออาชีพ 

สรุป: เข้าใจ “ค่าเสียหายส่วนแรก” เพื่อใช้ประกันรถยนต์ได้อย่างคุ้มค่า

    ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คือค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถต้องรับผิดชอบเองก่อนบริษัทประกันจะเข้ามาช่วย จึงมีผลโดยตรงต่อเบี้ยประกันและความคุ้มค่าในการใช้งาน การเข้าใจประเภทของ Deductible เงื่อนไขการเรียกเก็บ และวิธีวางแผนบริหารความเสี่ยง จะช่วยให้เจ้าของรถตัดสินใจซื้อหรือใช้ประกันรถยนต์ได้อย่างมั่นใจและไม่เสียเปรียบ นอกจากนี้ หากเลือกซื้อประกันกับผู้ให้บริการที่เข้าใจลูกค้าอย่างเพื่อนแท้ เงินด่วน คุณยังจะได้สิทธิผ่อน 0% พร้อมคำแนะนำที่ตรงกับไลฟ์สไตล์การขับขี่อย่างแท้จริง 

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม