ทำประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองรถหาย-ไฟไหม้จริงไหม

ทำประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองรถหาย-ไฟไหม้จริงไหม

    เมื่อพูดถึง ประกันรถยนต์ หลายคนอาจคุ้นเคยกับประกันชั้น ซึ่งมีความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกกรณี แต่ด้วยค่าเบี้ยที่สูง จึงทำให้ผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยมองหาทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า หนึ่งในนั้นคือ “ประกันรถยนต์ชั้น 2+” ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้รถที่มีงบประมาณจำกัดแต่ยังต้องการความอุ่นใจในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ รถหาย หรือไฟไหม้ 

    บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับความคุ้มครองของ ประกันรถยนต์ 2+ ว่าครอบคลุมจริงหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นที่หลายคนสงสัยที่สุดคือ “คุ้มครองรถหายและไฟไหม้จริงไหม” พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อดี ข้อจำกัด และคำแนะนำในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับคุณ 

ประกันรถยนต์ 2+ คืออะไร

ประกันรถยนต์ 2+ คืออะไร

    ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นรูปแบบการคุ้มครองที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง ประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2 กล่าวคือ มีความคุ้มครองมากกว่าประกันชั้น ปกติ แต่ยังไม่ครอบคลุมเท่าชั้น จุดเด่นสำคัญคือ คุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี และยังรวมถึงความคุ้มครองรถหายและไฟไหม้ 

 

ความคุ้มครองหลักของชั้น 2+ 

    1.  คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายบุคคลภายนอก 
    2.  คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก 
    3.  คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ (เฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบก) 
    4.  คุ้มครองรถสูญหายจากการโจรกรรม 
    5. คุ้มครองไฟไหม้ 

สิ่งที่ทำให้ประกันประเภทนี้น่าสนใจ คือค่าเบี้ยที่ถูกกว่าชั้น อย่างเห็นได้ชัด แต่ยังให้ความอุ่นใจได้ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในความเสี่ยงที่เจ้าของรถกังวลมากที่สุดอย่าง รถหายและไฟไหม้ 

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองรถหายและไฟไหม้จริงไหม

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองรถหายและไฟไหม้จริงไหม

คำตอบคือ จริง” ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองทั้งสองกรณีนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยม 

    • รถหาย 
      หากรถถูกโจรกรรม ไม่ว่าจะหายทั้งคันหรือหายบางส่วน (เช่น ล้อแม็ก เครื่องเสียง) บริษัทประกันจะคุ้มครองตามทุนประกันที่ระบุไว้ โดยมักคำนวณจากมูลค่าตลาดของรถในปัจจุบัน 
    • ไฟไหม้ 
      กรณีเกิดเพลิงไหม้จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ระบบไฟฟ้าลัดวงจร น้ำมันรั่วจนเกิดประกายไฟ หรือไฟไหม้จากอุบัติเหตุชน บริษัทประกันจะชดเชยค่าเสียหายให้ตามทุนประกัน 

ข้อควรระวังคือ การเคลมต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกรมธรรม์ เช่น ต้องไม่ใช่การกระทำโดยเจตนาของเจ้าของรถ หรือการใช้รถผิดประเภท หากตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่ายดังกล่าว ผู้เอาประกันจะได้รับการชดเชยแน่นอน 

ข้อดีของการเลือกประกันรถยนต์ 2+

ข้อดีของการเลือกประกันรถยนต์ 2+

  1. คุ้มครองรถหาย-ไฟไหม้ในราคาคุ้มค่า 
    ค่าเบี้ยถูกกว่าประกันชั้น แต่ยังได้ความอุ่นใจเรื่องความเสี่ยงใหญ่ ๆ 
  2. เหมาะกับรถอายุหลายปี 
    รถที่ใช้งานมาแล้ว 5–10 ปี มักไม่คุ้มที่จะทำประกันชั้น แต่ก็ยังต้องการคุ้มครองมากกว่าชั้น 3+ ประกัน 2+ จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัว 
  3. ไม่จำเป็นต้องทำชั้น แต่ยังได้ความคุ้มครองเพียงพอ 
    โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ขับรถไม่บ่อย ใช้ขับในระยะสั้นหรือมีที่จอดปลอดภัย 
  4. ความคุ้มครองครอบคลุมคู่กรณี 
    หากเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี คุณยังสามารถเคลมซ่อมรถได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องจ่ายเองทั้งหมด 
  5. เลือกทุนประกันและค่าเบี้ยได้ตามงบประมาณ 
    บริษัทประกันส่วนใหญ่เปิดโอกาสให้เลือกทุนและเบี้ยที่เหมาะสมกับกำลังจ่ายของผู้เอาประกัน 
ข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนทำประกันรถยนต์ 2+

ข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนทำประกันรถยนต์ 2+

แม้จะมีความคุ้มครองหลายด้าน แต่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ยังมีข้อจำกัดที่ผู้เอาประกันควรรู้ 

    • ไม่คุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี 
      เช่น ขับชนเสา ชนกำแพง รถพลิกคว่ำเอง กรมธรรม์จะไม่ครอบคลุมในกรณีนี้ 
    • ทุนประกันอาจต่ำกว่าชั้น 1 
      เนื่องจากรถที่เหมาะทำ 2+ มักเป็นรถอายุหลายปี ทำให้ทุนประกันลดลงตามสภาพการใช้งาน 
    • ต้องมีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น 
      หากเกิดเหตุชนสัตว์ สิ่งก่อสร้าง หรือธรรมชาติ (เช่น น้ำท่วม) ความคุ้มครองอาจไม่ครอบคลุมเต็มที่ 
    • การเลือกบริษัทประกันมีความสำคัญมาก 
      เนื่องจากเงื่อนไขการคุ้มครองและการบริการหลังการขายแตกต่างกัน 
วิธีเลือกประกันรถยนต์ 2+ ให้คุ้มค่าที่สุด

วิธีเลือกประกันรถยนต์ 2+ ให้คุ้มค่าที่สุด

    1. พิจารณาพฤติกรรมการขับขี่ของตัวเอง 
      หากใช้รถไม่บ่อย ขับระยะทางสั้น หรือมีที่จอดปลอดภัย ประกัน 2+ ถือว่าเพียงพอ 
    2. ตรวจสอบทุนประกันและค่าเบี้ย 
      เลือกทุนประกันที่เหมาะกับมูลค่ารถในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้จ่ายเกินความจำเป็น 
    3. เลือกบริษัทที่มีบริการเคลมรวดเร็ว 
      ดูรีวิวจากผู้ใช้จริงหรือสอบถามประสบการณ์จากคนรอบตัว เพื่อมั่นใจว่าจะได้รับบริการเมื่อเกิดเหตุ 
    4. เปรียบเทียบเงื่อนไขการคุ้มครอง 
      แม้จะเป็นประกันชั้น 2+ เหมือนกัน แต่รายละเอียดของแต่ละบริษัทต่างกัน เช่น บางบริษัทอาจครอบคลุมน้ำท่วมด้วย 
    5. เลือกผ่านโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ 
      เพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบหลายบริษัท และได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 

สรุป

    ประกันรถยนต์ 2+ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในราคาที่ประหยัดกว่าชั้น จุดเด่นสำคัญคือคุ้มครองทั้ง รถหายและไฟไหม้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่เจ้าของรถกังวลมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันควรเข้าใจข้อจำกัด เช่น ไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี และทุนประกันอาจต่ำกว่า ทั้งนี้ หากเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและบริการดี ประกันชั้น 2+ จะช่วยให้คุณได้ทั้งความอุ่นใจและความคุ้มค่าในการใช้รถยนต์ 

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม