การซื้อขายหรือเปลี่ยนเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทย ต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์” ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่สำคัญ เพื่อให้การถือครองรถยนต์ถูกต้องตามทะเบียนกรมการขนส่งทางบก สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อหรือขายรถมือสอง คำถามสำคัญที่มักเกิดขึ้นคือ “โอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง” บทความนี้จะอธิบายแบบละเอียด พร้อมแนะนำขั้นตอน ค่าธรรมเนียม และข้อควรระวังต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถโอนได้อย่างราบรื่นและถูกต้อง
เอกสารที่ผู้ขายต้องเตรียม: ความรับผิดชอบของเจ้าของรถเดิม
เมื่อมีการขายรถยนต์ เจ้าของเดิมจะต้องเป็นผู้เตรียมเอกสารหลัก ๆ เพื่อให้การโอนกรรมสิทธิ์ดำเนินการได้ตามกฎหมาย รายการเอกสารสำคัญที่ผู้ขายต้องเตรียม มีดังนี้:
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียนรถ)
เป็นเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของที่สำคัญที่สุด ต้องมีชื่อผู้ขายระบุไว้ในเล่ม พร้อมกับสถานะเป็น “เจ้าของรถ” อย่างถูกต้อง - บัตรประชาชนตัวจริง ของผู้ขาย
กรณีเป็นบุคคลธรรมดา หากผู้ขายไม่สามารถไปด้วยตัวเอง ต้องทำ หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มของกรมขนส่ง) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ - แบบคำขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
แบบฟอร์มนี้สามารถขอได้ที่กรมขนส่ง หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก โดยต้องลงลายมือชื่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย - ใบเสร็จหรือสัญญาซื้อขาย (ถ้ามี)
เป็นหลักฐานประกอบการซื้อขายที่แสดงถึงการตกลงซื้อขายกันจริง - หลักฐานการผ่านการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถอายุเกิน 7 ปี)
รถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 7 ปี ต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนดำเนินการโอน
เอกสารที่ผู้ซื้อรถต้องเตรียม: เตรียมให้พร้อมก่อนทำเรื่องโอน
การเป็นเจ้าของรถยนต์คนใหม่ไม่ใช่แค่การจ่ายเงินแล้วจบ แต่ต้องมีการรับโอนอย่างถูกต้อง เอกสารที่ผู้ซื้อจะต้องเตรียม มีดังนี้:
- บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ซื้อ
หากไม่สามารถมาด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของทั้งสองฝ่าย - สำเนาทะเบียนบ้าน (บางสำนักงานขนส่งอาจขอเพิ่ม)
เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการเปลี่ยนชื่อในระบบทะเบียน - หนังสือสัญญาซื้อขายรถยนต์ (ถ้ามี)
เพื่อยืนยันว่าได้มีการตกลงซื้อขายกันจริง และสามารถใช้ประกอบการคำนวณภาษี - แบบคำขอโอนและเปลี่ยนแปลงรายการในเล่มทะเบียน
ต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย - เงินสดหรือช่องทางชำระค่าธรรมเนียม
เพราะจะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการโอนตามที่กฎหมายกำหนด
ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบก
การไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งไม่ใช่เรื่องยาก หากเตรียมเอกสารครบ โดยขั้นตอนที่ถูกต้องมีดังนี้:
- นำรถเข้าตรวจสอบ
รถจะต้องผ่านการตรวจสภาพก่อน (เฉพาะกรณีที่อายุเกิน 7 ปี หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง) - ยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่
ทั้งเอกสารของผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้อง - ชำระค่าธรรมเนียมการโอน
มีทั้งค่าธรรมเนียมการโอน ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้าเข้าเกณฑ์) และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ (ดูรายละเอียดในหัวข้อถัดไป) - รับเล่มทะเบียนฉบับใหม่
หลังจากเปลี่ยนชื่อเรียบร้อย เล่มทะเบียนจะเปลี่ยนชื่อเป็นผู้ซื้อ และออกใบเสร็จรับเงินให้เรียบร้อย
ค่าธรรมเนียมและภาษีที่เกี่ยวข้องกับการโอนรถยนต์
แม้ค่าธรรมเนียมจะไม่สูงมาก แต่ควรเตรียมเงินให้เพียงพอ โดยสามารถสรุปได้ดังนี้:
- ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ 100 บาท
- ค่าอากรซื้อขาย (0.5% ของราคาซื้อขาย หรือราคาประเมินกรมขนส่ง)
กรณีราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาประเมิน จะคิดจากราคาประเมิน
- ค่าอากรซื้อขาย (0.5% ของราคาซื้อขาย หรือราคาประเมินกรมขนส่ง)
- ค่าตรวจสภาพรถ (ถ้ามี) ประมาณ 200 บาท
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น ค่าเปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนประเภทใช้งาน ฯลฯ
หมายเหตุ: สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ผ่านบริษัทไฟแนนซ์หรือธนาคาร ต้องตรวจสอบว่าเอกสารจากสถาบันการเงินเรียบร้อยก่อนโอน
ข้อควรระวังในการโอนรถยนต์
การโอนรถยนต์ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเอกสาร แต่ยังต้องระวังในหลายประเด็น ดังนี้:
- อย่ามอบเล่มทะเบียนให้จนกว่าจะชำระครบ
หากยังไม่ได้เงินครบถ้วน อย่ามอบเล่มทะเบียนให้ผู้ซื้อก่อนเด็ดขาด - อย่าลืมตรวจสอบภาษี พ.ร.บ. และการต่อทะเบียนให้เรียบร้อย
เพื่อป้องกันปัญหาในการตรวจสภาพและการโอน - ตรวจสอบว่ารถมีภาระผูกพันหรือไม่
เช่น ถูกจำนำกับไฟแนนซ์ หรือมีการแจ้งอายัด - ห้ามปล่อยให้ผู้ซื้อใช้รถก่อนโอนกรรมสิทธิ์
เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างที่ยังเป็นชื่อเจ้าของเดิม จะมีผลทางกฎหมายต่อเจ้าของเดิม - ควรถ่ายรูปเอกสารเก็บไว้
เพื่อใช้เป็นหลักฐานกรณีมีข้อพิพาทหรือมีปัญหาภายหลัง
สรุป: โอนรถอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และไม่เสียสิทธิ์
การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยต้องเตรียมเอกสารทั้งของผู้ซื้อและผู้ขายให้ครบ ตรวจสอบสภาพรถ ชำระค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย และดำเนินการที่สำนักงานขนส่งทางบกเท่านั้น ไม่ควรโอนกันเองแบบไม่เป็นทางการเพราะอาจเกิดปัญหาภายหลังได้
สำหรับใครที่มีรถยนต์และกำลังต้องการใช้เงิน บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนหรือโฉนดรถยนต์ โดยไม่ต้องจอดรถ วงเงินสูง อนุมัติไว ผ่อนสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินเรื่องเอง พร้อมบริการประเมินฟรี ติดต่อสอบถามได้ทุกสาขาทั่วประเทศ