ผ่อนสินเชื่อโฉนดที่ดินอย่างไรไม่ให้เป็นภาระ

ผ่อนสินเชื่อโฉนดที่ดินอย่างไรไม่ให้เป็นภาระ

    การขอ สินเชื่อโฉนดที่ดิน ถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่คนไทยจำนวนมากนิยมใช้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ว่าจะเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว หมุนเวียนธุรกิจ ลงทุน หรือแก้ปัญหาฉุกเฉิน จุดเด่นคือสามารถใช้ที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเป็นหลักประกันได้ ทำให้เข้าถึงวงเงินที่สูงและมีความมั่นคง แต่เมื่อกู้มาแล้ว สิ่งสำคัญคือการ “ผ่อนชำระ” ที่ไม่ทำให้เป็นภาระหนักเกินไป 

    ในบทความนี้ เราจะมาลงลึกถึงแนวทางการผ่อน สินเชื่อโฉนดที่ดิน อย่างชาญฉลาด โดยแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อหลัก และปิดท้ายด้วยสรุป 100 คำ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้จริง 

เข้าใจเงื่อนไขสินเชื่อโฉนดที่ดินให้ชัดเจน

เข้าใจเงื่อนไขสินเชื่อโฉนดที่ดินให้ชัดเจน

ก่อนจะพูดถึงการผ่อน การทำความเข้าใจเงื่อนไขของ สินเชื่อโฉนดที่ดิน ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุด เพราะหากไม่รู้ว่าต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง อาจทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้ 

 

ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม 

    • สินเชื่อโฉนดที่ดินจากธนาคารและบริษัทเอกชน เช่น เพื่อนแท้ เงินด่วน จะมีดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด (เช่น 15-26% ต่อปีสำหรับพิโกไฟแนนซ์) 
    • บางที่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าตรวจสอบโฉนด ค่าประเมิน 

ระยะเวลาในการผ่อน 

    • ยิ่งผ่อนนาน ค่างวดต่อเดือนก็จะน้อย แต่ดอกเบี้ยรวมอาจสูง 
    • หากผ่อนสั้น ค่างวดอาจสูงขึ้น แต่จบหนี้เร็วและประหยัดดอกเบี้ย 

วงเงินอนุมัติ 

    • แต่ละสถาบันให้วงเงินต่างกัน บางที่อาจอนุมัติสูงสุดเพียง 50-70% ของราคาประเมิน แต่บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน สามารถอนุมัติสูงถึง 130% ของราคาประเมิน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้ลูกค้ามีสภาพคล่องมากขึ้น 

เมื่อเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้แล้ว ผู้กู้จะสามารถวางแผนการผ่อนได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระ 

การวางแผนงบประมาณรายเดือน

การวางแผนงบประมาณรายเดือน

หัวใจของการผ่อนสินเชื่อไม่ให้เป็นภาระ คือ การจัดการรายรับและรายจ่ายให้สมดุล หากผ่อนไม่ไหวจะเกิดปัญหาเรื้อรังทั้งค่าปรับ ดอกเบี้ยทบต้น และอาจถึงขั้นสูญเสียที่ดิน 

  1. กำหนดสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ 
    • โดยทั่วไป แนะนำให้ภาระหนี้รวมไม่เกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน เช่น หากมีรายได้ 30,000 บาท ค่างวดสินเชื่อไม่ควรเกิน 9,000-12,000 บาท 
  2. จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย 
    • จดบันทึกค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร เพื่อดูว่ามีเงินเหลือจริงเท่าไรสำหรับผ่อน 
  3. กันเงินผ่อนออกก่อนเสมอ 
    • เมื่อได้เงินเดือนหรือรายได้เข้ามา ควรโอนส่วนของค่างวดแยกไว้ทันที เพื่อป้องกันการใช้จ่ายเกินตัว 
  4. สร้างกองทุนฉุกเฉิน 
    • ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายทั้งหมด เผื่อกรณีตกงานหรือรายได้ลดลง จะได้ยังผ่อนต่อได้ 
เทคนิคผ่อนสินเชื่อโฉนดที่ดินให้คุ้มค่า

เทคนิคผ่อนสินเชื่อโฉนดที่ดินให้คุ้มค่า

การผ่อนที่ดีไม่ใช่เพียงการจ่ายตรงเวลา แต่ยังต้องใช้กลยุทธ์ที่ทำให้ “หนี้หมดเร็วขึ้น” และ “ประหยัดดอกเบี้ย” 

  1.   ผ่อนเกินค่างวดเมื่อมีรายได้พิเศษ 
    • หากมีโบนัส หรือรายได้พิเศษ ควรนำมาจ่ายเกินค่างวด เพื่อให้เงินต้นลดเร็ว ดอกเบี้ยก็จะลดลงตาม 
  2.   เลือกผ่อนแบบต้นลดดอกลด 
    • หากสถาบันการเงินมีเงื่อนไขนี้ ควรเลือก เพราะจะทำให้เงินต้นลดลงทุกครั้งที่ผ่อน ดอกเบี้ยในงวดถัดไปก็จะลดตามทันที 
  3.   รีไฟแนนซ์เมื่อมีโอกาส 
    • หากพบว่ามีที่อื่นให้ดอกเบี้ยถูกกว่า สามารถย้ายไปรีไฟแนนซ์ได้ แต่ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายในการย้ายด้วยว่าคุ้มจริงหรือไม่ 
  4.   หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระ 
    • เพราะค่าปรับและดอกเบี้ยผิดนัดสูงกว่าดอกเบี้ยปกติหลายเท่า การผิดนัดบ่อยๆ จะทำให้หนี้บานปลาย 
ใช้ประโยชน์จากวงเงินกู้ให้เกิดผลผลิต

ใช้ประโยชน์จากวงเงินกู้ให้เกิดผลผลิต

อีกเคล็ดลับในการผ่อนสินเชื่อไม่ให้เป็นภาระ คือ “การใช้เงินกู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” หากนำเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ผลตอบแทนจะเป็นศูนย์ แต่หากนำไปลงทุนสร้างรายได้ ก็จะช่วยผ่อนหนี้ได้ง่ายขึ้น 

  1. ใช้ลงทุนในธุรกิจ 
    • เช่น เปิดร้านค้า ลงทุนการเกษตร หรือซื้อต้นทุนการผลิต หากคำนวณแล้วว่ามีกำไร จะช่วยให้การผ่อนไม่เป็นภาระ 
  2. ใช้ปรับปรุงคุณภาพชีวิต 
    • เช่น ซ่อมบ้านเพื่อปล่อยเช่า หรือลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังการผลิต 
  3. ใช้เคลียร์หนี้ที่ดอกเบี้ยสูงกว่า 
    • หากมีหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อที่ดอกเบี้ยสูง การนำเงินจากสินเชื่อโฉนดที่ดินที่ดอกเบี้ยถูกกว่ามาปิด จะช่วยลดภาระรวมได้มาก 
เลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ

เลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ

การเลือกสถาบันการเงินที่ถูกต้อง จะช่วยให้การผ่อนหนี้ไม่เป็นภาระที่หนักเกินไป 

  • ธนาคารพาณิชย์ 
    • ดอกเบี้ยต่ำ แต่ขั้นตอนซับซ้อนและใช้เวลานาน 
  • สหกรณ์การเกษตรหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ 
    • เหมาะสำหรับสมาชิก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงได้ 
  • บริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาต เช่น บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด 
    • จุดเด่นคืออนุมัติรวดเร็ว วงเงินสูงถึง 130% ของราคาประเมิน ไม่ต้องเสียเวลาไปจดจำนองที่กรมที่ดิน 
    • ลูกค้าเตรียมเอกสารง่ายๆ ได้แก่ โฉนดที่ดิน บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงิน ก็สามารถกู้ได้แล้ว 

การเลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้มั่นใจว่าเงื่อนไขโปร่งใส ไม่ถูกเอาเปรียบ และผ่อนได้อย่างสบายใจ 

สรุป

    การผ่อน สินเชื่อโฉนดที่ดิน ให้ไม่เป็นภาระนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับจำนวนเงินที่กู้ แต่ขึ้นอยู่กับ การวางแผนและการบริหารจัดการทางการเงิน ของผู้กู้เองด้วย ตั้งแต่การเข้าใจเงื่อนไข การจัดสรรงบประมาณ การใช้กลยุทธ์ผ่อนที่คุ้มค่า ไปจนถึงการเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ 

    หากผู้กู้มีวินัยทางการเงิน ใช้วงเงินกู้ให้เกิดประโยชน์ และจ่ายตรงเวลา สินเชื่อโฉนดที่ดินจะไม่ใช่ภาระ แต่จะกลายเป็น “เครื่องมือ” ที่ช่วยเสริมสภาพคล่องและสร้างโอกาสทางการเงินใหม่ๆ ได้อย่างมั่นคง 

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม