บทความนี้เปรียบเทียบอย่างละเอียดระหว่าง “เงินด่วนทันใจ” และ “สินเชื่อส่วนบุคคล” ทั้งในแง่ของความเร็วในการอนุมัติ วงเงินที่สามารถกู้ได้ เอกสารที่ต้องใช้ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขทางกฎหมาย และความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ พร้อมยกตัวอย่างเคสใช้งานจริง นโยบายล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย และคำแนะนำสำหรับการเลือกสินเชื่อที่ดีที่สุดในปี 2025 เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยจากหนี้นอกระบบ
เงินด่วนทันใจ คืออะไร ?
- เป็นสินเชื่อขนาดเล็ก (ไม่เกิน 100,000 บาท) กฎหมาย BOT ระบุว่าดอกเบี้ยไม่เกิน 33% ต่อปี
- เหมาะสำหรับใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่าซ่อมรถ อุบัติเหตุฉุกเฉิน ซ่อมแซมบ้าน ซึ่งต้องการเงินรวดเร็ว
- เคสตัวอย่าง: ร้านค้า SME เล็กๆ ในกรุงเทพฯ ดึงเงินด่วน 10,000 บาท ภายใน 15 นาทีเพื่อค่าซ่อมเครื่องช็อตโกโก้ที่พังระหว่างใช้งาน
เรียกได้ว่าเป็นบริการสินเชื่อเงินสดฉุกเฉินที่อนุมัติรวดเร็วมาก โอนเข้าบัญชีหรือรับเงินสดภายในไม่กี่นาทีถึงภายในวันเดียว
สินเชื่อส่วนบุคคล คืออะไร
- ตอบโจทย์ผู้มีรายได้ประจำ ต้องใช้เอกสาร ขอยืมเงินก้อนใหญ่ – อาจเป็นหลักแสนถึงล้านบาท
- ดอกเบี้ยตามกฎหมายไม่เกิน 25% ต่อปีสำหรับสินเชื่อไม่มีหลักประกัน และ 24% สำหรับมีหลักประกัน
- เคสจำลอง: ข้าราชการรายหนึ่งกู้ 500,000 บาทเพื่อรีโนเวตบ้าน ดอกเบี้ยประมาณ 8%/ปี ผ่อน 120 งวด
สินเชื่อส่วนบุคคลคือการกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น จัดงาน แต่งงาน หรือรวมยอดหนี้ บางครั้งอนุมัติผ่านแอปโดยใช้เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนหรือสเตทเมนต์บัญชี วงเงินโดยประมาณคือไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ต่อเดือน หากรายได้มากกว่า 30,000 บาทอาจกู้ได้ถึง 5 เท่าตามนโยบายผู้ให้กู้
บริการทั้งสองแบบแตกต่างกันอย่างไร
ในหัวข้อนี้ เราจะเปรียบเทียบอย่างชัดเจนว่า “เงินด่วนทันใจ” กับ “สินเชื่อส่วนบุคคล” มีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงวิเคราะห์กระบวนการสมัคร เวลาในการอนุมัติ และข้อควรระวัง
จุดเด่นของแต่ละบริการ
1.เงินด่วนทันใจ
- อนุมัติไวมาก เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินใช้เงินอย่างเร่งด่วน
- เอกสารน้อยและไม่ตรวจเครดิตบูโรในบางกรณี
- มีระบบให้คำแนะนำและช่วยเลือกแผนดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- ปรึกษา 24 ชั่วโมง
2.สินเชื่อส่วนบุคคล
- ดอกเบี้ยรวมต่ำกว่า หากใช้แผนผ่อนระยะยาว
- วงเงินสูงกว่ามาก อาจสูงถึงหลักล้าน ขึ้นกับรายได้และเครดิต
- เหมาะกับการใช้งานระยะยาว เช่น การนำไปลงทุน หรือต่อยอดทางธุรกิจ ปิดหนี้ต่าง ๆ
ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมก็แตกต่างกัน
1. เงินด่วนทันใจ
- ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.60%/เดือน (ไม่เกิน 36% ต่อปี) ตามประกาศของผู้ให้บริการ เช่น เพื่อนแท้เงินด่วน
- แต่ก็มีความเสี่ยงหากเลือกผู้ให้บริการที่ผิดกฎหมายก็อาจเสี่ยงจ่ายค่าธรรมเนียมแอบแฝงและดอกเบี้ยเกินกฎหมายแบบไม่รู้ตัว
2. สินเชื่อส่วนบุคคล
- ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก บางรายให้ดอกเบี้ยพิเศษช่วงแรก เช่น 9.99% ใน 2-3 เดือนแรก
- สูงสุดไม่เกิน 36% ต่อปี โดยทั่วไปจากเริ่ม ~1.65% เดือน (~19–25% ปี)
- ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง และโปร่งใสตามกฎหมาย
เงื่อนไขการสมัคร และวงเงินของแต่ละบริการ
เงินด่วนทันใจ
- วงเงินสูงสุด 300,000 บาท สำหรับสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน
- อายุผู้สมัคร 20–75 ปี สัญชาติไทย
- ระยะเวลาผ่อนคืนได้ยืดหยุ่น 4–24 เดือน
สินเชื่อส่วนบุคคล
- วงเงินสูงถึง 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนดในแต่ละธนาคาร อนุมัติทั้งแบบมีหลักประกัน (บ้าน รถ ที่ดิน) และแบบไม่มีหลักประกัน
- อายุผู้สมัครทั่วไป 20–70 ปี รายได้ขั้นต่ำ 7,500–20,000 บาท แล้วแต่เงื่อนไขของผู้ให้บริการ
เปรียบเทียบเอกสารที่ต้องใช้
1.เงินด่วนทันใจ
- เอกสารพื้นฐาน เช่น บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน และหลักทรัพย์ (ถ้ามี) เช่น โฉนดที่ดิน เพื่อโอกาสในการได้วงเงินที่สูงขึ้น
2.สินเชื่อส่วนบุคคล
- มีการใช้เอกสารมากกว่า รวมถึงสลิปเงินเดือน, บัญชีธนาคารย้อนหลัง, หนังสือรับรองเงินเดือน หลายกรณีต้องมีการใช้คนค้ำประกันหรือใช้หลักทรัพย์เพิ่มเติม
แล้วบริการแบบไหน ? ได้เงินไวกว่ากัน !
1.เงินด่วนทันใจ
- สามารถรับเงินได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่บางผู้ให้บริการอย่างเพื่อนแท้เงินด่วนสามารถอนุมัติเงินด่วนได้ทันใจภายใน 10 นาที
2.สินเชื่อส่วนบุคคล
- แม้จะผ่านระบบออนไลน์ แต่ยังต้องใช้เวลา 30 นาที ไปจนถึงสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบเอกสาร รายได้ เครดิตบูโร และวงเงิน
แล้วเราควรจะเลือกใช้บริการแบบไหนดีนะ ?
ในสถานการณ์ที่เงินคือปัจจัยเร่งด่วน เช่น ค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายทันที ค่าซ่อมรถ หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลือกหันไปพึ่งทางเลือกทางการเงินที่ “ได้เร็ว ไว และเข้าถึงง่าย” หรือบางรายอาจพิจารณาสินเชื่อส่วนบุคคลที่แม้จะช้ากว่า แต่ให้ความมั่นคงระยะยาวมากกว่า หรือบางรายก็ให้ความสนใจไปที่บริการรูปแบบอื่น ๆ อย่างเช่น การจำนองบ้าน แทน
ในหัวข้อนี้ เราจะเปรียบเทียบอย่างชัดเจนว่าบริการแต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์แบบไหน พื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบว่าควรเลือกแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุด
ถ้าตรงตามนี้ “เงินด่วนทันใจ” นี่สิคำตอบ !
- เกิดเหตุฉุกเฉินทางการเงิน เช่น ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ค่าซ่อมรถกะทันหัน หรือค่าซ่อมบ้านจากภัยธรรมชาติที่ต้องซ่อมแซมทันที
- ไม่มีเอกสารรายได้ที่ชัดเจน เช่น แม่ค้าออนไลน์ ฟรีแลนซ์ หรืออาชีพอิสระที่ไม่มีสลิปเงินเดือนประจำ
- เครดิตบูโรไม่สวยหรือมีประวัติค้างชำระในอดีต ซึ่งมักทำให้ขอสินเชื่อจากธนาคารไม่ผ่าน
- ต้องการเงินจำนวนน้อย เช่น 3,000 – 30,000 บาท ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้วงเงินสูงและสามารถชำระคืนได้ในเวลาอันสั้น
- ต้องการความรวดเร็ว ที่จะได้รับเงินภายในไม่กี่นาทีถึงไม่เกิน 1 วัน
ถ้าตรงตามนี้ “สินเชื่อส่วนบุคคล” ตอบโจทย์กว่า !
- ต้องการวงเงินสูง เช่น มากกว่า 50,000 – 1,000,000 บาท สำหรับวัตถุประสงค์ขนาดใหญ่ เช่น แต่งงาน ซื้อเฟอร์นิเจอร์ ทำธุรกิจ
- มีรายได้ประจำและเอกสารพร้อม เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือเจ้าของธุรกิจที่สามารถแสดงบัญชีรายรับได้
- ต้องการผ่อนระยะยาว ตั้งแต่ 12 เดือน ถึง 10 ปี เพื่อให้ภาระรายเดือนไม่หนักเกินไป
- ต้องการดอกเบี้ยต่ำและควบคุมการผ่อนชำระได้ดี
- ต้องการรีไฟแนนซ์หรือรวมหนี้ เพื่อจัดระบบการเงินและลดดอกเบี้ยรวม
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
เงินด่วนทันใจ ใช้โฉนดที่ดินค้ำได้หรือไม่?
ได้ หากใช้โฉนดเป็นหลักประกัน วงเงินก็จะสูงขึ้น และไม่มีการยึดหากชำระคืนตามกำหนด
ต้องมีบัญชีธนาคารหรือไม่?
ในกรณีเพื่อนแท้ สามารถรับเงินสดที่สาขาหรือโอนเข้าบัญชีได้ตามสะดวก
สินเชื่อส่วนบุคคลรู้ผลไวแค่ไหน?
ผู้ให้บริการอย่างเพื่อนแท้แจ้งผลผ่านออนไลน์รู้ผลภายใน 10 นาที และนัดเซ็นสัญญาที่สาขาได้ทันที
ถ้ามีภาระบ้านผ่อนอยู่ ขอสินเชื่อใหม่ได้ไหม?
ผู้ให้บริการอย่างเพื่อนแท้มีสินเชื่อสำหรับผู้ที่ “ผ่อนอยู่ก็กู้ได้” อนุมัติเร็ว พร้อมผ่อน 4–120 งวด
ดอกเบี้ยเงินด่วนที่ถูกกฎหมายควรไม่เกินเท่าไร?
ไม่เกิน 36% ต่อปี เมื่อคิดแบบรวมอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก
หากเครดิตไม่ดี ยังขอสินเชื่อได้ไหม?
สำหรับเงินด่วนบางรายไม่เช็คเครดิตบูโร เช่น สินเชื่อโฉนดที่ดิน หรือเงินด่วนออนไลน์บางประเภท
ระหว่างเงินด่วนทันใจ VS สินเชื่อส่วนบุคคล – บทสรุปแตกต่างกันอย่างไร
การตัดสินใจเลือกใช้บริการทางการเงินอย่างใดอย่างหนึ่ง จำเป็นต้องเข้าใจถึง “ธรรมชาติของผลิตภัณฑ์” ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเงินด่วนทันใจและสินเชื่อส่วนบุคคลมีจุดเด่นและจุดด้อยที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้:
วัตถุประสงค์ในการใช้เงิน
- เงินด่วนทันใจ เหมาะสำหรับกรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ค่าเทอมที่ต้องจ่ายทันที
- สินเชื่อส่วนบุคคล เหมาะสำหรับวัตถุประสงค์ที่วางแผนได้ เช่น การรีโนเวทบ้าน การลงทุน หรือการรวมหนี้หลายก้อน
ความเร็วในการได้รับเงิน
- เงินด่วนทันใจ ได้เงินไวมาก – ภายใน 10 นาทีถึงไม่เกิน 1 วัน ผ่านระบบดิจิทัลหรือแอปพลิเคชัน
- สินเชื่อส่วนบุคคล ต้องใช้เวลาในการพิจารณา 1–7 วัน หรือนานกว่านั้นในบางกรณี
ความแตกต่างด้านวงเงิน
- เงินด่วนทันใจ วงเงินจำกัดตามข้อกฎหมาย มักไม่เกิน 100,000 บาท
- สินเชื่อส่วนบุคคล วงเงินสูงกว่ามาก สูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ หรือหลักล้านบาทในบางกรณี
ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
- เงินด่วนทันใจ ดอกเบี้ยสูงกว่า โดยทั่วไปเฉลี่ย 20–33% ต่อปี (effective rate)
- สินเชื่อส่วนบุคคล ดอกเบี้ยต่ำกว่า เฉลี่ย 6–25% ต่อปี โดยเฉพาะในกรณีมีเครดิตดี
ความยืดหยุ่นในการชำระคืน
- เงินด่วนทันใจ ผ่อนชำระภายในระยะสั้น เช่น 15–30 วัน
- สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนชำระระยะยาวได้ถึง 5–10 ปี ทำให้ภาระต่อเดือนเบากว่า
กลุ่มผู้ใช้งานเป้าหมาย
- เงินด่วนทันใจ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน เครดิตบูโรไม่ดี หรือไม่มีเวลาเตรียมเอกสาร
- สินเชื่อส่วนบุคคล เหมาะกับผู้มีรายได้ประจำ มีเครดิตดี และต้องการควบคุมภาระหนี้ระยะยาว
หากคุณกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ “ต้องใช้เงินเร็วภายในวันเดียว” การเลือกใช้บริการที่ได้เงินไวภายในหนึ่งวันคือคำตอบ
แต่ถ้าหากคุณมีรายได้ประจำและวางแผนการเงินได้ การเลือก สินเชื่อส่วนบุคคล ก็ดูมีมีประโยชน์ระยะยาวมากกว่า และมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบริการด้านการเงินให้เลือกอีกหลากหลาย อาทิ สินเชื่อบ้านแลกเงิน และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ตอบโจทย์กับความต้องการทางการเงินของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน