ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นสวนทางกับรายได้ การพึ่งพารายได้ทางเดียวอาจไม่เพียงพอ คำถามที่ว่า หาเงินจากไหนดี จึงกลายเป็นเรื่องเร่งด่วน การสร้างรายได้หลายช่องทาง (Multiple Income Streams) คือคำตอบสำคัญของยุคนี้ บทความนี้ได้รวบรวม 12 วิธีสร้างรายได้ที่ทำได้จริง ทั้งสำหรับคนมีทุนและไม่มีทุน ครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ วันนี้เพื่อนแท้เงินด่วนจะพาไปสำรวจทุกความเป็นไปได้ในการสร้างกระแสเงินสดใหม่
ก่อนจะเริ่มหาเงิน ต้องรู้เป้าหมายของตัวเองก่อน
ก่อนจะกระโจนเข้าสู่สมรภูมิการหารายได้ การหยุดคิดและวางแผนคือเข็มทิศที่สำคัญที่สุด การรู้เป้าหมายและต้นทุนของตนเองจะช่วยคัดกรองตัวเลือกมากมายว่าควรหาเงินจากไหนดีและทำให้เลือกวิธีที่ใช่ และเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับสถานการณ์ของตนเอง
- ตั้งเป้าหมาย หาเงินด่วน, หางานเสริม, หรือสร้างธุรกิจ? คุณต้องการเงินแบบไหน? หากต้องการ “เงินด่วน” เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง อาจต้องมองหางานที่ได้เงินเร็ว (เช่น งานบริการ) หากต้องการ “งานเสริม” คือการหารายได้เพิ่มจากงานประจำ แต่ถ้าต้องการ “สร้างธุรกิจ” นี่คือการมองเกมยาวที่ต้องใช้เวลาและความทุ่มเทสูงกว่า
- ประเมินต้นทุน คุณมีอะไรบ้าง (เวลา, ทักษะ, เงินทุน, ทรัพย์สิน) ประเมินสิ่งที่คุณมีไม่ว่าจะเป็น
- เวลา ว่างช่วงไหน)
- ทักษะ ถนัดอะไร เช่น เขียน, ตัดต่อ, ขับรถ)
- เงินทุน มีเงินตั้งต้นหรือไม่
- ทรัพย์สิน (มีบ้าน, รถ ที่สามารถต่อยอดได้หรือไม่)
การรู้สิ่งนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าควรเริ่มจากจุดไหน
หาเงินจากออนไลน์
โลกออนไลน์ได้ทลายข้อจำกัดในการสร้างรายได้ ทำให้คำถามว่าหาเงินจากไหนดีมีคำตอบที่หลากหลายขึ้น นี่คือช่องทางยอดนิยมที่หลายคนเริ่มต้นและประสบความสำเร็จจริงในยุค 2025
1. ขายของออนไลน์ (E-commerce & Dropshipping)
การเป็นเจ้าของร้านค้าในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านจริงอีกต่อไป การขายของออนไลน์ หรือ E-commerce คือการนำสินค้าไปวางขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล เข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศหรือทั่วโลก แม้กระทั่งรูปแบบ Dropshipping ที่ไม่ต้องสต๊อกของเอง แค่ทำการตลาด เมื่อมีออเดอร์ ก็ส่งให้ซัพพลายเออร์จัดการแทน
- แพลตฟอร์ม Shopee, Lazada ถือเป็น Marketplace ยอดนิยมที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ หรือ TikTok Shop ที่กำลังมาแรงด้านการขายผ่านวิดีโอสั้นและ Live สด
- ข้อดี/ข้อควรระวัง ข้อดีคือต้นทุนเริ่มต้นต่ำ (โดยเฉพาะ Dropshipping) เข้าถึงลูกค้าง่าย ข้อควรระวังคือการแข่งขันสูง ต้องบริหารสต๊อกและจัดการออเดอร์ให้ดี และต้องศึกษาค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มให้เข้าใจ
2. สร้างคอนเทนต์ (Content Creator)
หากคุณมีความชอบหรือความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การเปลี่ยนสิ่งนั้นเป็นเนื้อหา (Content) คือการสร้างตัวตนและรายได้ที่น่าสนใจในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ บทความ หรือพอดแคสต์ เมื่อมีผู้ติดตามมากพอและสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งได้ รายได้ก็จะตามมาเอง
- แพลตฟอร์ม YouTube (สำหรับวิดีโอยาว สร้างรายได้จากโฆษณา), TikTok (วิดีโอสั้น สร้างตัวตนได้รวดเร็ว), Facebook (สร้างชุมชนและรับงานสปอนเซอร์)
- รายได้จาก รายได้หลักมาจากสปอนเซอร์จากแบรนด์ (Influencer Marketing) นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งค่าโฆษณา (เช่น AdSense บน YouTube) หรือการสนับสนุนจากผู้ชม (Donate)
3. นายหน้าออนไลน์ (Affiliate Marketing)
นี่คือวิธีหาเงินที่แทบไม่ต้องลงทุนเลย เพียงแค่นำลิงก์สินค้าหรือบริการของแบรนด์อื่น (เช่น Shopee Affiliate, Lazada Affiliate) มาโปรโมตในช่องทางของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น บล็อก, Facebook, หรือ TikTok เมื่อมีคนคลิกและซื้อสินค้าผ่านลิงก์นั้น คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามที่ตกลงไว้ หัวใจสำคัญคือการสร้างความน่าเชื่อถือและการเลือกสินค้าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
4. ฟรีแลนซ์ (Freelance)
การเปลี่ยน “ทักษะ” ที่มีให้เป็น “รายได้” คือความหมายของฟรีแลนซ์ หากคุณมีความสามารถเฉพาะทาง เช่น การเขียนบทความ (Content Writer), การตัดต่อวิดีโอ, การออกแบบกราฟิก, หรือการเขียนโปรแกรม คุณสามารถรับงานเป็นโปรเจกต์ผ่านแพลตฟอร์มตัวกลาง (เช่น Fastwork, Upwork) หรือรับงานตรง ข้อดีคืออิสระในการบริหารเวลาและเลือกรับงาน แต่ต้องมีวินัยสูงในการจัดการงานและบัญชี
หาเงินจากงานออฟไลน์และอาชีพเสริม
แม้โลกออนไลน์จะเติบโต แต่ช่องทางการหาเงินจากไหนดีในโลกออฟไลน์ยังคงมีอยู่เสมอ และมักเป็นช่องทางที่สร้างเงินสดได้รวดเร็ว ตอบโจทย์คนที่ต้องการรายได้เสริมหลังเลิกงานหรือในวันหยุด
5. งานบริการและขนส่ง
ไหนึ่งในอาชีพเสริมยอดนิยมที่ใช้ “เวลา” และ “ยานพาหนะ” ที่มีอยู่แลกเป็นเงิน งานบริการและขนส่งตอบโจทย์คนที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง สามารถเลือกเวลาทำงานได้เอง และมักได้รับค่าตอบแทนเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์
- Grab / LINEMAN ขับรถส่งคน หรือขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร/เอกสาร
- รับจ้างส่งของ ใช้รถกระบะส่วนตัวรับจ้างขนย้าย หรือร่วมกับแอปพลิเคชันขนส่ง
- รับจ้างทั่วไป งานที่ใช้แรงงานแลกเงินโดยตรง เช่น รับจ้างทำความสะอาดตามบ้าน, ดูแลสวน, หรืองานอีเวนต์
6. ขายของตามตลาดนัดหลังเลิกงาน
เสน่ห์ของการค้าขายแบบเห็นหน้าลูกค้ายังคงอยู่ การขายของทั่วไปเหมาะสำหรับคนที่มีสินค้า หรือสามารถผลิตสินค้า (เช่น อาหาร, เครื่องดื่ม, งานฝีมือ) และต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่โดยตรง
- ตลาดนัด ทำเลทองที่คนพลุกพล่าน เหมาะสำหรับขายอาหาร เสื้อผ้า หรือของใช้ทั่วไป
- งานฝีมือ การนำทักษะเฉพาะตัวมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ขายตามงานแสดงสินค้า หรือเปิดท้ายขายของ
- ขายหลังเลิกงาน เช่น การตั้งแผงเล็กๆ ขายลูกชิ้นปิ้ง หมูปิ้ง หรือเครื่องดื่ม บริเวณหน้าบ้านหรือแหล่งชุมชน
7. งานพาร์ตไทม์
สำหรับนักศึกษาหรือคนที่ต้องการรายได้เสริมในเวลาที่แน่นอน การทำงานพาร์ตไทม์เป็นทางเลือกที่ดี เป็นการ “ขายเวลา” แลกกับรายได้ที่มั่นคงเป็นรายชั่วโมงหรือรายวัน และยังได้เรียนรู้ทักษะการทำงานในระบบไปในตัว
- งานร้านกาแฟ / ร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟ, บาริสต้า, พนักงานในครัว
- งานอีเวนต์ (Event Staff) งานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว เช่น สตาฟฟ์ดูแลบูธในงานแสดงสินค้า, งานคอนเสิร์ต มักได้ค่าตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้นๆ
หาเงินจากการลงทุน
นอกจากการใช้แรงและเวลาแลกเงิน การ “ใช้เงินต่อเงิน” หรือการลงทุน คืออีกคำตอบของคำถามหาเงินจากไหนดีที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว แต่ย้ำว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนเริ่มต้นเสมอ
8. ลงทุนในสินทรัพย์การเงิน
เป็นการลงทุนในตลาดทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับการออมและการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว การลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานของสิ่งที่ลงทุน
- หุ้น การซื้อสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในบริษัทจดทะเบียน มีโอกาสได้กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) และเงินปันผล (Dividend)
- กองทุนรวม เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด เป็นการรวมเงินจากนักลงทุนหลายคนไปให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพบริหารต่อ มีนโยบายหลากหลาย (เช่น กองทุนหุ้น, กองทุนตราสารหนี้)
- ตราสารหนี้ การลงทุนใน “หนี้” (เช่น พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้เอกชน) ความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยที่แน่นอน
9. ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
เป็นการลงทุนนอกเหนือจากสินทรัพย์การเงินหลัก มักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นมาก หรือต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นที่สูงกว่า และมีสภาพคล่อง (การซื้อขายเปลี่ยนเป็นเงินสด) ที่ต่ำกว่า
- อสังหาริมทรัพย์ การซื้อที่ดิน, บ้าน, หรือคอนโด เพื่อปล่อยเช่า (สร้างกระแสเงินสด) หรือรอขายทำกำไร (Capital Gain) ต้องใช้เงินทุนสูงและมีความรู้เรื่องทำเล
- สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) เช่น คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ต้องเน้นย้ำว่ามีความผันผวนสูงมาก และมีความเสี่ยงสูงที่สุดในบรรดาการลงทุน เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องศึกษาข้อมูลอย่างหนัก
หาเงินจากทรัพย์สินที่มีอยู่
หากคุณมีทรัพย์สินปลอดภาระ (เช่น บ้าน, รถ, ที่ดิน) ทรัพย์สินเหล่านั้นสามารถเป็น “แหล่งเงินทุน” ชั้นดี สำหรับผู้ที่มองหาเงินจากไหนดีในยามฉุกเฉิน หรือเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ สร้างโอกาสใหม่ๆ
10. เปลี่ยนสินทรัพย์เป็นรายได้ (ปล่อยเช่า)
วิธีการสร้าง Passive Income ที่คลาสสิกที่สุด คือการเปลี่ยนทรัพย์สินที่มีอยู่ให้กลายเป็นเครื่องผลิตเงินสดรายเดือน โดยที่เราไม่ต้องลงแรงมากนักหลังจากจัดการผู้เช่าได้ลงตัวแล้ว
- ปล่อยเช่าบ้าน / คอนโด หากมีที่พักอาศัยที่ไม่ได้อยู่เอง สามารถปล่อยเช่ารายเดือน หรือแม้แต่รายวัน (ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Airbnb)
- ปล่อยเช่ารถยนต์ หากมีรถที่จอดไว้ไม่ได้ใช้ สามารถปล่อยเช่าผ่านแอปพลิเคชัน หรือให้เช่ากับคนรู้จักเพื่อใช้ในการขนส่ง
11. เปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุน (แหล่งเงินทุน)
ในกรณีที่ต้องการ “เงินก้อน” เพื่อไปลงทุน หรือปิดหนี้ การนำทรัพย์สินไปเปลี่ยนเป็นทุนเป็นทางเลือกที่ช่วยปลดล็อกมูลค่าของสินทรัพย์นั้นๆ ซึ่งต้องพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยและเงื่อนไขสัญญาอย่างรอบคอบ
- การรีไฟแนนซ์ (Refinance) หากบ้านหรือคอนโดยังผ่อนไม่หมด แต่ผ่อนมานานจนมีส่วนต่าง สามารถรีไฟแนนซ์เพื่อขอวงเงินส่วนต่าง (Cash Out) ออกมาใช้ได้
- จำนอง (Mortgage) การนำอสังหาริมทรัพย์ (บ้าน, ที่ดิน) ที่ปลอดภาระแล้ว ไปเป็นหลักประกันเพื่อกู้เงินกับสถาบันการเงิน
- ขายฝาก คล้ายการจำนอง แต่กรรมสิทธิ์จะโอนไปเป็นของผู้รับซื้อฝากทันที (มีความเสี่ยงสูงกว่าหากไถ่ถอนไม่ทันกำหนด)
12. การใช้สินทรัพย์ค้ำประกันขอสินเชื่อ
นอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์ สินทรัพย์อื่นๆ อย่าง “รถยนต์” หรือ “โฉนดที่ดิน” ก็สามารถใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้เช่นกัน ซึ่งมักจะอนุมัติง่ายและได้วงเงินสูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป
- สินเชื่อทะเบียนรถ การใช้เล่มทะเบียนรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เป็นหลักประกัน โดยที่ยังมีรถไว้ใช้งานตามปกติ ตอบโจทย์คนที่มีรถปลอดภาระ
- สินเชื่อโฉนดที่ดิน การใช้โฉนดที่ดิน (น.ส. 4) มาเป็นหลักประกันในการกู้เงิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนไปต่อยอดธุรกิจ หรือใช้ในยามฉุกเฉิน
เทคนิคหาเงินให้ได้ต่อเนื่องและยั่งยืน
การหาเงินจากไหนดี ไม่ใช่แค่การหาครั้งเดียวแล้วจบ แต่คือการสร้างความมั่นคงในระยะยาว นี่คือแนวคิดสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
สร้างหลายช่องทางรายได้
อย่าใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียว การมีรายได้หลายทาง (เช่น เงินเดือน + ขายของออนไลน์ + เงินปันผล) ช่วยกระจายความเสี่ยง หากรายได้ทางหนึ่งสะดุด ก็ยังมีอีกทางหนึ่งคอยพยุงไว้ ทำให้สถานะทางการเงินโดยรวมมั่นคงกว่าการพึ่งพารายได้ทางเดียว
ลงทุนในตัวเอง
การลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดและให้ผลตอบแทนสูงที่สุด คือการลงทุนในความรู้และทักษะของตนเอง (Upskill/Reskill) ยิ่งคุณมีทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาด (เช่น ทักษะดิจิทัล, การตลาด, ภาษา, การวิเคราะห์ข้อมูล) มูลค่าตัวคุณและโอกาสในการหารายได้ก็จะยิ่งสูงขึ้น
สร้างระบบอัตโนมัติ
เป้าหมายสูงสุดของการหาเงินจากไหนดี คือการมีรายได้แม้ในยามหลับ การสร้างระบบที่ทำงานแทนเรา เช่น การเขียนบล็อกหรือทำ YouTube ที่สร้างรายได้จากโฆษณาแม้เวลาผ่านไป, การสร้าง E-book ขาย, หรือการลงทุนที่ให้เงินปันผลอัตโนมัติ แม้ต้องใช้เวลาและความพยายามสร้างในช่วงแรก แต่จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการหาเงิน
1. หาเงินออนไลน์ได้จริงไหม?
ไได้จริงแน่นอน ปัจจุบันมีหลายคนที่ยึดการหาเงินออนไลน์เป็นอาชีพหลัก แต่ต้องอาศัยความพยายาม ความสม่ำเสมอ และความอดทน ไม่ใช่ทุกวิธีที่จะได้เงินทันที และต้องระวังมิจฉาชีพที่มักอ้างงานออนไลน์ที่ “ง่าย” และ “รวยเร็ว” เกินจริง ควรเลือกทำกับแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
2. ถ้าไม่มีทุนเริ่มต้นเลย ควรเริ่มทำอะไรดี?
หากไม่มีเงินทุน ให้เริ่มจาก “ต้นทุน” อื่นที่คุณมี นั่นคือ “เวลา” และ “ทักษะ” งานที่เหมาะคือ ฟรีแลนซ์ (ใช้ทักษะ), นายหน้าออนไลน์ (ใช้การโปรโมต), หรือ Content Creator (ใช้ความชอบและความคิดสร้างสรรค์) หรืองานบริการออฟไลน์ที่ใช้แรงงานแลกเงินทันที เช่น งานพาร์ตไทม์ หรือขับรถส่งอาหาร
3. ต้องการหาเงินด่วนภายใน 1 วัน ทำอะไรได้บ้าง?
หากต้องการเงินด่วนจริง ๆ มักเป็นงานที่ใช้แรงงานแลกเงินและได้ค่าตอบแทนทันที เช่น งานบริการขนส่ง (ขับ Grab/LINEMAN), รับจ้างทั่วไป (ขนของ, ทำความสะอาด), หรือการขายของตลาดนัด (หากมีสินค้าอยู่แล้ว) อีกทางเลือกคือการนำทรัพย์สินที่มีค่าไปจำนำ (โรงรับจำนำ) หรือใช้บริการสินเชื่อที่อนุมัติไว
4. มีวิธีหาเงินจากมือถือไหม?
มีหลายวิธีที่ใช้มือถือเป็นเครื่องมือหลัก เช่น การขายของออนไลน์ (จัดการออเดอร์ผ่านแอป), การทำ Affiliate Marketing (แชร์ลิงก์), การสร้างคอนเทนต์ (ถ่ายและตัดต่อ TikTok), หรือแม้แต่การเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล (ซึ่งมีความเสี่ยงสูง) มือถือคือเครื่องมือหาเงินที่ทรงพลังที่สุดในยุคนี้
5. การลงทุนแบบไหนที่ความเสี่ยงน้อยที่สุดสำหรับมือใหม่?
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นและรับความเสี่ยงได้ต่ำ การลงทุนในตราสารหนี้ (เช่น พันธบัตรรัฐบาล) หรือ กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำที่สุด แม้ผลตอบแทนจะไม่สูง แต่ก็มักจะสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ และมีสภาพคล่องสูง ช่วยรักษาเงินต้นได้ดี
สรุปบทความ
การหาเงินจากไหนดีในยุค 2025 มีคำตอบที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และการลงทุน ไม่มีวิธีไหนดีที่สุด มีแต่วิธีที่เหมาะสมที่สุดกับเป้าหมายและต้นทุนของเรา แต่หากคุณต้องการแหล่งเงินทุนฉุกเฉิน หรือต้องการเงินก้อนไปต่อยอดธุรกิจ การใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่คือทางออก เพื่อนแท้เงินด่วน พร้อมช่วยให้การไถ่ถอนจำนอง หรือการขอสินเชื่อใหม่เป็นเรื่องง่าย เราให้วงเงินสูงสุด 130% ของราคาประเมิน โดยไม่ต้องเสียเวลาไปจดจำนองที่กรมที่ดิน ช่วยให้คุณเข้าถึงเงินทุนได้รวดเร็วทันใจ
