ในโลกของเศรษฐกิจ “เงินเฟ้อ” และ “เงินฝืด” เป็นคำที่มักถูกพูดถึงอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนหรืออยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองภาวะนี้มีผลต่อ “การเงิน” ของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ธุรกิจ หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป หลายคนอาจเคยรู้สึกว่าค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว หรือในบางช่วงกลับพบว่าสินค้าราคาลดลงอย่างผิดปกติ โดยไม่เข้าใจว่าภาวะเหล่านี้สะท้อนถึงอะไรในระบบเศรษฐกิจ
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักความหมาย ความแตกต่าง และผลกระทบของเงินเฟ้อกับเงินฝืด รวมถึงแนวทางการรับมือในชีวิตประจำวัน เพื่อวางแผนการเงินให้เหมาะสม และสามารถปรับตัวได้อย่างมั่นคงในทุกภาวะเศรษฐกิจ โดยเสริมด้วยข้อมูลจากบริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อที่เข้าใจปัญหาทางการเงินของประชาชนในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง
ความหมายของเงินเฟ้อและเงินฝืดในบริบททางการเงิน
เงินเฟ้อ (Inflation) และเงินฝืด (Deflation) เป็นปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบโดยตรงต่อ การเงิน ของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และครัวเรือน
- เงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาจเกิดจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ความต้องการบริโภคเพิ่ม หรือปริมาณเงินในระบบเพิ่มสูง
- เงินฝืด คือ ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดจากการบริโภคลดลง การลงทุนชะลอตัว หรือประชาชนกักเก็บเงินไว้ ไม่จับจ่ายใช้สอย
ทั้งสองภาวะมีผลต่อความสามารถในการจับจ่ายของประชาชนและการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งรัฐบาลและธนาคารกลางของแต่ละประเทศจำเป็นต้องมีนโยบายรับมืออย่างเหมาะสม
ผลกระทบของเงินเฟ้อต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน
ในแง่ของ การเงินส่วนบุคคล เงินเฟ้อทำให้ค่าเงินลดลง กล่าวคือ เงินจำนวนเท่าเดิมจะซื้อของได้น้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างผลกระทบ เช่น:
- ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น เช่น ข้าว น้ำมัน ไข่
- ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะค่าแรงอาจไม่ได้ปรับเพิ่มตามราคา
- อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงอาจกลายเป็นติดลบ หากอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารจ่าย
สำหรับภาคธุรกิจ เงินเฟ้อส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ราคาขายต้องปรับตาม อาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะธุรกิจที่พึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ
ผลกระทบของเงินฝืดต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน
แม้เงินฝืดอาจดูเหมือนเป็นสิ่งดี เพราะราคาสินค้าลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันสะท้อนถึงปัญหาทางเศรษฐกิจในระดับลึก เช่น:
- ประชาชนชะลอการใช้จ่าย เพราะคาดว่าราคาจะถูกลงไปอีก
- ธุรกิจรายได้ลดลงจากยอดขายที่หดตัว
- การจ้างงานลดลงและเกิดการว่างงาน
- หนี้สินเพิ่มขึ้นในแง่ของภาระที่แท้จริง เพราะรายได้ลด แต่จำนวนหนี้คงเดิม
หากปล่อยให้เกิดภาวะเงินฝืดต่อเนื่อง จะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ซึ่งฟื้นตัวยากกว่าภาวะเงินเฟ้อในหลายกรณี
วิธีการรับมือและจัดการกับภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด
ในระดับบุคคล
- เงินเฟ้อ: วางแผนการเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ที่ต้านทานเงินเฟ้อได้ เช่น ทองคำ หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนรวม
- เงินฝืด: รักษาสภาพคล่องสำรองเงินสด และไม่หยุดใช้จ่ายทั้งหมด เพราะเศรษฐกิจจะฟื้นได้ช้าหากทุกคนหยุดจับจ่าย
ในระดับภาครัฐ
- ในภาวะเงินเฟ้อ: ธนาคารกลางอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมปริมาณเงินในระบบ
- ในภาวะเงินฝืด: อาจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เช่น ลดดอกเบี้ย เพิ่มการใช้จ่ายของรัฐ หรือมาตรการ QE (Quantitative Easing)
ในประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีหน้าที่ควบคุมเสถียรภาพทางการเงิน และใช้เป้าหมายเงินเฟ้อเป็นเครื่องมือหลัก โดยรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 1-3% ต่อปี ซึ่งถือว่าเหมาะสม
ตัวอย่างจริงของภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืดในประเทศไทยและต่างประเทศ
กรณีเงินเฟ้อ:
- ประเทศไทย ปี 2565: ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ราคาน้ำมันและวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งสูงแตะระดับกว่า 7%
- ประเทศเวเนซุเอลา: ประสบภาวะเงินเฟ้อรุนแรง (Hyperinflation) ราคาสินค้าพุ่งหลายพันเท่าในระยะเวลาไม่กี่ปี เนื่องจากปัญหาการบริหารนโยบายการเงิน
กรณีเงินฝืด:
- ญี่ปุ่นในช่วงปี 1990-2010: ประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและเงินฝืดยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ส่งผลให้ประชาชนขาดแรงจูงใจในการบริโภคและลงทุน
ในกรณีของประเทศไทย บริษัทในภาคการเงิน เช่น บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ซึ่งให้บริการสินเชื่อโฉนดที่ดินโดยไม่ต้องจดจำนองที่กรมที่ดิน และให้วงเงินสูงสุดถึง 130% ของราคาประเมิน ก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะเงินเฟ้อหรือเงินฝืดเช่นกัน เนื่องจากพฤติกรรมการขอกู้ของลูกค้าอาจเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์เศรษฐกิจ
สรุป
เงินเฟ้อและเงินฝืดเป็นภาวะทางเศรษฐกิจที่ตรงกันข้าม แต่ล้วนส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบการเงินและคุณภาพชีวิตของประชาชน ในขณะที่เงินเฟ้อทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นและเงินมีมูลค่าลดลง เงินฝืดกลับสะท้อนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการลดลงของราคา แต่ส่งผลให้เกิดการว่างงานและรายได้ลด
การรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้จึงต้องอาศัยการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ทั้งในระดับบุคคลและระดับประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพและการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยหากประชาชนต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่สะดวกรวดเร็วในภาวะเศรษฐกิจผันผวน การใช้บริการสินเชื่อกับ บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ก็เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไขปัญหาทางการเงินอย่างทันท่วงที