ในช่วงเวลาที่การเงินอยู่ในภาวะไม่แน่นอน การหาแหล่งเงินกู้ที่รวดเร็วและมีเงื่อนไขชัดเจนจึงเป็นเรื่องสำคัญ โฉนดแลกเงิน จึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะช่วยให้คุณได้เงินก้อนโดยไม่ต้องขายทรัพย์สิน และกำหนดเงื่อนไขเองได้บางส่วน
ในบทความนี้เราจะทำความเข้าใจให้ลึกถึงประโยชน์ กระบวนการ และข้อควรระวัง เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
บริการโฉนดแลกเงินคืออะไร ?
“โฉนดแลกเงิน” คือการขอสินเชื่อโดยใช้ โฉนดที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยคุณไม่ต้องขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินให้กับผู้ให้กู้ แต่เพียงแค่ยินยอมให้นำโฉนดไปเป็นหลักประกันเงินกู้ และเมื่อถึงกำหนดตามสัญญา ผู้กู้สามารถชำระคืนและรับโฉนดคืนได้
บริการนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนจำนวนมากต้องการเงินด่วนโดยไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อธนาคารได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีประวัติเครดิตไม่ดี ไม่มีรายได้ประจำ หรือไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม
โดยผู้ให้บริการมักเป็นบริษัทไฟแนนซ์หรือผู้ให้สินเชื่อที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างเช่น เพื่อนแท้เงินด่วน
กระบวนการโฉนดแลกเงินทำงานอย่างไร ?
เมื่อผู้กู้มีโฉนดกรรมสิทธิ์ในมือ สามารถนำมายื่นกับผู้ให้บริการเพื่อประเมินมูลค่า และทำการขอสินเชื่อ เมื่อผ่านการอนุมัติ จะได้รับเงินก้อนทันที โดยมีการทำสัญญารับรอง ซึ่งภายใต้สัญญานี้ โฉนดจะถูกเก็บเป็นหลักประกัน และสามารถไถ่ถอนได้เมื่อชำระครบตามเงื่อนไขของบริการโฉนดแลกเงิน
ทำไมในปัจจุบันถึงนิยมใช้บริการโฉนดแลกเงิน ?
1.ความเร็วในการอนุมัติ หนึ่งในข้อดีที่เด่นชัดที่สุดของ “โฉนดแลกเงิน” คือความรวดเร็วในการอนุมัติ บางแห่งสามารถดำเนินการภายในวันเดียว หรือไม่เกิน 1–3 วันเท่านั้น ต่างจากการขอสินเชื่อธนาคาร หรือการจำนองบ้านที่ต้องใช้เอกสารจำนวนมากและเวลาอนุมัตินาน
- ไม่เช็กเครดิต ไม่ต้องมีคนค้ำ ผู้ให้บริการจำนวนมาก ไม่ตรวจสอบเครดิตบูโร และไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกัน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ประวัติทางการเงินไม่ดี หรือไม่มีคนที่สามารถค้ำให้ได้
3.ได้เงินสดเต็มมือ โดยยังถือกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน คุณไม่จำเป็นต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือบ้านไปยังผู้ให้กู้ เพียงใช้โฉนดเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเท่านั้น
โฉนดแบบไหนที่สามารถนำมาแลกเงินได้?
- โฉนดที่ดินเปล่า นอกจากการจำนองที่ดิน โฉนดที่ดินเปล่าก็สามารถใช้บริการโฉนดแลกเงินได้แม้จะไม่มีสิ่งปลูกสร้างก็ตาม เพราะถือว่าโฉนดก็เป็นหลักประกันได้แล้ว แต่โดยทั่วไปจะได้รับวงเงินต่ำกว่าที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากการประเมินมูลค่าอยู่ที่ความเป็นไปได้ในการใช้งานในอนาคต
- โฉนดพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เช่น บ้าน อาคารพาณิชย์ หากมีสิ่งปลูกสร้างอยู่บนโฉนดก็มีโอกาสได้รับวงเงินที่สูงกว่าโฉนดที่ดินเปล่า โดยเฉพาะหากอยู่ในเขตเมืองใหญ่หรือพื้นที่มีศักยภาพ เช่น ริมถนน ใกล้สถานศึกษา หรือแหล่งธุรกิจ
- โฉนดในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แม้โฉนดจะตั้งอยู่นอกเขตเมือง แต่หากทรัพย์มีศักยภาพ หรือมีเอกสารสิทธิ์ชัดเจน ก็สามารถใช้ขอสินเชื่อได้เช่นกัน
ขั้นตอนการยื่นขอ “โฉนดแลกเงิน” แบบละเอียด
- ตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนยื่นคำขอใช้บริการโฉนดแลกเงิน ควรตรวจสอบว่า:
- มีอายุ 20–75 ปี
- เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดโดยสมบูรณ์
- โฉนดไม่มีภาระจำนอง หรืออยู่ในวงเงินที่สามารถรีไฟแนนซ์ได้
- เตรียมเอกสาร
- บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน
- สำเนาโฉนด (ทุกหน้า)
- บัญชีธนาคารเพื่อรับเงิน
- รูปถ่ายทรัพย์สิน (บางกรณี)
- ประเมินราคาทรัพย์ และเสนอวงเงิน เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบและประเมินราคาทรัพย์ เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะเสนอวงเงิน พร้อมอัตราดอกเบี้ย และกำหนดการผ่อนชำระ
- ทำสัญญาและรับเงิน หลังเซ็นสัญญา ผู้ให้บริการจะโอนเงินก้อนเข้าบัญชีภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือภายในวันถัดไป
เปรียบเทียบ “โฉนดแลกเงิน” กับบริการที่ใกล้เคียง
แม้บริการ “โฉนดแลกเงิน” จะมีข้อดี แต่ก็ยังมีบริการอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงต่างก็แต่ก็ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่ของขั้นตอนการดำเนินการ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการผ่อนชำระ และระดับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
1. โฉนดแลกเงิน
“เงินด่วน ไม่ต้องจดจำนอง”
โฉนดแลกเงินมักให้บริการโดยบริษัทเอกชนหรือไฟแนนซ์ที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยไม่ต้องจดทะเบียนจำนอง ณ สำนักงานที่ดิน จึงทำให้ดำเนินการเร็วมาก บางแห่งสามารถอนุมัติวงเงินภายใน 1–3 วัน และจ่ายเงินสดทันทีหลังเซ็นสัญญา
ข้อดีหลักของบริการนี้ คือ ไม่เช็กเครดิตบูโร และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ทำให้คนที่มีประวัติเครดิตไม่ดีสามารถเข้าถึงเงินทุนได้ วงเงินที่ได้รับบางรายอาจสูงถึง 100%–130% ของราคาประเมิน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ให้บริการ
แต่ในทางกลับกัน เนื่องจากไม่ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองโดยระบบธนาคาร จึงต้องอาศัยความรอบคอบในการตรวจสอบผู้ให้บริการ และศึกษาสัญญาอย่างละเอียด เพราะอัตราดอกเบี้ย อาจกลายเป็นภาระในระยะยาวหากไม่มีแผนชำระที่ดี
2. การจำนองที่ดิน
“มั่นคงกว่า แต่ก็ซับซ้อนกว่า”
การจำนองที่ดินมักเกิดขึ้นในบริบทของการกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ได้รับใบอนุญาต โดยผู้ขอกู้จะต้องนำโฉนดไปจดทะเบียนจำนอง ณ สำนักงานที่ดินร่วมกับธนาคาร ขั้นตอนนี้ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก มีการตรวจสอบเครดิตบูโร และต้องยื่นหลักฐานแสดงรายได้อย่างละเอียด
ข้อดีของการจำนองที่ดินคือ มีความมั่นคง โปร่งใส และอยู่ภายใต้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เหมาะสำหรับคนที่มีที่ดินเปล่าหรือโฉนดที่ไม่มีภาระผูกพัน
ข้อจำกัดคือ ขั้นตอนใช้เวลานาน และมีความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสาร ทำให้ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเงินด่วน หรือผู้ที่มีประวัติเครดิตไม่ดีต่างก็จะเลือกใช้บริการโฉนดแลกเงินหรือบริการอื่น ๆ แทน
3. การจำนองบ้าน
“ให้วงเงินสูง แต่มีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลานาน”
การจำนองบ้านโดยทั่วไปหมายถึงการขอสินเชื่อบ้าน หรือรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงิน ด้วยการใช้บ้านพร้อมที่ดินเป็นหลักประกัน ซึ่งมักได้รับวงเงินสูงกว่าจำนองที่ดินเปล่า เพราะสามารถประเมินมูลค่าทั้งสิ่งปลูกสร้างและที่ดินได้
ข้อดีคือ ได้วงเงินสูงถึง 80%–90% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย มีดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนได้นานถึง 30 ปี เหมาะสำหรับคนที่มีบ้านในเขตเมือง มีรายได้ประจำ และต้องการผ่อนในระยะยาว
แต่ข้อเสียคือ ขั้นตอนใช้เวลานานกว่าทุกประเภท และต้องยื่นเอกสารจำนวนมาก อาทิ สลิปเงินเดือน สเตทเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน และเอกสารรายได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ นั่นจึงทำให้ โฉนดแลกเงิน กลายเป็นบริการที่ได้รับความนิยมขึ้นมากในปัจจุบัน
ข้อควรระวัง
1.อัตราดอกเบี้ยในบางแห่งยังค่อนข้างสูง
บางบริษัทอาจเสนออัตราดอกเบี้ยของบริการโฉนดแลกเงินรายเดือนสูงถึง 2.5%–3.0% ซึ่งหากผ่อนชำระนานเกิน 12 เดือน อาจทำให้ดอกเบี้ยรวมพุ่งสูงจนไม่คุ้ม
2.ความเสี่ยงในการถูกยึดทรัพย์
หากผิดนัดชำระ หรือขาดการสื่อสารกับผู้ให้กู้ตามเวลาที่กำหนด ผู้กู้มีสิทธิ์ถูกยึดทรัพย์ตามสัญญา
3.ข้อสัญญาที่ต้องอ่านอย่างถี่ถ้วน
ควรหลีกเลี่ยงการเซ็นเอกสารแบบเร่งรีบ อ่านให้ครบทุกบรรทัด โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ “การผิดนัด” และ “ค่าใช้จ่ายแฝง”
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
บทสรุป – โฉนดแลกเงิน ทางเลือกฉลาดสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในยุคที่คนต้องการเงินด่วน และช่องทางเข้าถึงสินเชื่อธนาคารยังคงเต็มไปด้วยข้อจำกัด “โฉนดแลกเงิน” ก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเงินด่วน ใช้เอกสารน้อย ไม่สามารถกู้ผ่านธนาคารได้ หรือ ไม่อยากเสียเวลากับขั้นตอนที่ซับซ้อน
บริการนี้มีข้อดีชัดเจนในด้าน ความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น และ การไม่ตรวจสอบเครดิต ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าสินเชื่อรูปแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตามก็ต้องแลกมากับ ดอกเบี้ยเงินกู้ และ เงื่อนไขในสัญญาที่ต้องศึกษาละเอียด เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีผิดนัดชำระ
สุดท้ายนี้การเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ ชัดเจน และเชื่อถือได้อย่าง เพื่อนแท้เงินด่วน คือหนึ่งในวิธีที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้กู้ พร้อมทั้งลดโอกาสถูกเอาเปรียบหรือหลอกลวงจากผู้ให้บริการที่ผิดกฎหมาย
