ในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวน ค่าครองชีพสูงขึ้น ปัญหาการเงินฉุกเฉินอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด หลายคนจึงมีความต้องการใช้เงินด่วนเพื่อหมุนเวียนหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การมองหาแหล่งเงินกู้ที่อนุมัติรวดเร็วจึงเป็นทางออกแรกๆ แต่ความเร่งด่วนนั้นต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย วันนี้เพื่อนแท้เงินด่วนในฐานะผู้ให้บริการด้านสินเชื่อที่เข้าใจความต้องการของคุณ จะพาไปทำความรู้จักกับประเภทของสินเชื่อถูกกฎหมายที่ช่วยให้คุณผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างมั่นคง
เช็กให้ชัด กู้เงินด่วนอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
ในยามที่ต้องการเงินด่วน ความกังวลมักทำให้เรามองข้ามจุดสังเกตสำคัญ การเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างสินเชื่อในระบบและนอกระบบ คือปราการด่านแรกที่จะปกป้องคุณจากการเป็นหนี้ที่ไม่เป็นธรรม
ข้อแตกต่างระหว่าง "สินเชื่อถูกกฎหมาย" กับ "เงินกู้นอกระบบ"
การกู้เงินด่วนในปัจจุบันมีทั้งผู้ให้บริการที่เป็นสินเชื่อถูกกฎหมาย (In-system Loan) และเงินกู้นอกระบบ (Loan Sharks) ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวและอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
สินเชื่อถูกกฎหมาย หรือการกู้เงินด่วนถูกกฎหมาย คือบริการสินเชื่อที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือกระทรวงการคลัง มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงสุดไว้ชัดเจนตามกฎหมาย (เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกิน 25% ต่อปี) มีสัญญาที่ระบุเงื่อนไขโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีกระบวนการทวงถามหนี้ที่เป็นไปตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้
ในทางกลับกัน เงินกู้นอกระบบ คือการกู้เงินด่วนจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐ มักโฆษณาชวนเชื่อว่า “อนุมัติง่าย ได้เงินไว ไม่เช็กบูโร” แต่สิ่งที่ตามมาคือความเลวร้ายที่ซ่อนอยู่
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด ได้แก่
- การกำกับดูแล
- ถูกกฎหมาย: อยู่ภายใต้การควบคุมของ ธปท. หรือกระทรวงการคลัง
- นอกระบบ: ไม่มีหน่วยงานใดกำกับดูแล
- อัตราดอกเบี้ย
- ถูกกฎหมาย: มีเพดานกำหนดชัดเจนตามประเภทสินเชื่อ (เช่น 15%-33% ต่อปี)
- นอกระบบ: สูงเกินจริง (เช่น 10% ต่อเดือน หรือ 120% ต่อปี) และมักเป็นดอกลอย
- สัญญาและเงื่อนไข
- ถูกกฎหมาย: สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ชัดเจน ระบุยอดหนี้ ดอกเบี้ย และระยะเวลาผ่อน
- นอกระบบ: อาจไม่มีสัญญา หรือสัญญากำกวม เอาเปรียบผู้กู้
- การทวงหนี้
- ถูกกฎหมาย: ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ ห้ามข่มขู่หรือประจาน
- นอกระบบ: ใช้วิธีการข่มขู่ คุกคาม ใช้ความรุนแรง หรือประจานให้อับอาย
3 จุดสังเกต กู้เงินด่วนถูกกฎหมายต้องมีอะไรบ้าง
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เมื่อคุณต้องการใช้เงินด่วนและกำลังมองหาแหล่งเงินกู้ ควรตรวจสอบ 3 ปัจจัยหลักนี้ ก่อนตัดสินใจยื่นเรื่องกู้เงินด่วน
1. ตรวจสอบได้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ผู้ให้บริการสินเชื่อถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร (Bank) หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) จะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจและมีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลของ ธปท. เสมอ เราสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. (www.bot.or.th) หากไม่มีชื่อในระบบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพหรือเงินกู้นอกระบบ
2. อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมชัดเจน ไม่เกินกฎหมายกำหนด
กู้เงินด่วนถูกกฎหมายต้องแสดงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) อย่างชัดเจน ซึ่งต้องไม่เกินเพดานที่กฎหมายกำหนดตามประเภทสินเชื่อ นอกจากนี้ ต้องไม่มีการเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียม” หรือ “ค่าดำเนินการ” ล่วงหน้า หากพบว่ามีการแจ้งให้ “โอนเงินก่อน” เพื่อเป็นค่าเปิดระบบ ค่าเอกสาร หรือค่ามัดจำใดๆ นั่นคือสัญญาณอันตรายของมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
3. มีที่ตั้งสำนักงานชัดเจน และมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
แหล่งเงินกู้ที่น่าเชื่อถือต้องมีสถานที่ประกอบการเป็นหลักแหล่ง ชัดเจน สามารถติดต่อได้จริง และที่สำคัญที่สุดคือ ทุกการกู้เงินด่วนต้องมีการทำสัญญาที่ระบุเงื่อนไขการกู้ยืม วงเงิน อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาผ่อนชำระที่ชัดเจน ผู้กู้ต้องได้อ่านและเก็บสัญญาฉบับนั้นไว้ 1 ฉบับเสมอ การกู้ยืมที่ตกลงกันด้วยวาจาหรือผ่านการแชตเพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูงมาก
อยากได้เงินก้อนทำไงดี รวมประเภทสินเชื่อเงินด่วนถูกกฎหมาย
เมื่อเราคัดกรองแหล่งเงินกู้ที่ปลอดภัยได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการเลือกประเภทสินเชื่อเงินด่วนให้เหมาะกับความต้องการและคุณสมบัติของเรา ซึ่งแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป
1. สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan)
สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan คือสินเชื่อเงินด่วนประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ ผู้กู้เงินด่วนสามารถนำวงเงินที่ได้รับอนุมัติไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการปิดหนี้บัตรเครดิต, ซ่อมแซมบ้าน หรือเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือ “ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน” โดยสถาบันการเงินจะพิจารณาอนุมัติวงเงินจากรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ (เครดิตบูโร) เป็นหลัก ทำให้เป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนที่อยากได้เงินก้อน
2. สินเชื่อบัตรกดเงินสด (Cash Card Loan)
สินเชื่อบัตรกดเงินสด หรือสินเชื่ออนุมัติไว เป็นวงเงินสำรองฉุกเฉินในรูปแบบบัตร เมื่อได้รับการอนุมัติ ผู้ถือบัตรสามารถนำบัตรไปกดเงินสดจากตู้ ATM ได้ทันทีที่ต้องการเงินด่วน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือใช้ผ่อนชำระสินค้า สินเชื่อประเภทนี้เน้นความคล่องตัว สมัครเพียงครั้งเดียวสามารถใช้วงเงินหมุนเวียนได้ตลอดไป (ตราบเท่าที่ยังชำระคืนตามกำหนด) โดยจะคิดดอกเบี้ยเฉพาะส่วนของวงเงินที่กดออกมาใช้จริงเท่านั้น ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วนในยอดที่ไม่สูงมากและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
3. สินเชื่อที่มีหลักประกัน (Secured Loan)
สำหรับผู้ที่อยากได้เงินก้อน ทำไงดี ในวงเงินที่ค่อนข้างสูง สินเชื่อที่มีหลักประกันคือคำตอบที่ดีที่สุด นี่คือการกู้เงินด่วนโดยการนำทรัพย์สินที่มีอยู่มาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (รถยนต์, มอเตอร์ไซค์) หรือสินเชื่อบ้านแลกเงิน ข้อดีคือมักจะได้วงเงินที่สูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล และมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า เนื่องจากสถาบันการเงินมีความเสี่ยงน้อยลง เพราะมีหลักประกันที่ชัดเจน จึงเป็นแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีทรัพย์สินปลอดภาระและต้องการเงินด่วนก้อนใหญ่
4. สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance)
สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ หรือ นาโนไฟแนนซ์ ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแหล่งเงินกู้สำหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ, พ่อค้าแม่ค้า, หรือผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ (ไม่มีสลิปเงินเดือน) ที่มักจะเข้าไม่ถึงสินเชื่อถูกกฎหมายในระบบปกติ สินเชื่อประเภทนี้จะเน้นการพิจารณาจากกระแสเงินสดหมุนเวียนในบัญชี (Statement) หรือหลักฐานการประกอบอาชีพแทน แม้ว่าวงเงินอนุมัติอาจจะไม่สูงเท่าสินเชื่อประเภทอื่น (สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท) แต่ก็เป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยให้คนกลุ่มนี้สามารถกู้เงินด่วนเพื่อไปต่อยอดธุรกิจได้
5. สินเชื่อดิจิทัล (Digital Loan)
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท สินเชื่อดิจิทัล (Digital Loan) จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การกู้เงินด่วนทันใจอย่างแท้จริง นี่คือการกู้เงินด่วนที่ทำธุรกรรมทุกขั้นตอนผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชัน ตั้งแต่การยื่นเอกสาร การยืนยันตัวตน (e-KYC) ไปจนถึงการรับเงินเข้าบัญชี จุดเด่นคือความรวดเร็ว เป็นสินเชื่ออนุมัติไวที่อาจรู้ผลภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง และมักใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) เช่น พฤติกรรมการใช้จ่าย หรือการชำระค่าบริการต่างๆ มาประกอบการพิจารณา
6. บัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสด (Cash Card) ตามที่กล่าวไปในข้อ 2 (สินเชื่อบัตรกดเงินสด) นั้น มีลักษณะเด่นคือการเป็น “วงเงินสำรอง” ที่พร้อมใช้ ผู้ให้บริการทางการเงินจะอนุมัติวงเงินไว้ให้ในบัตร เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือต้องการใช้เงินด่วน ผู้ถือบัตรสามารถเบิกถอนเงินสดได้ทันทีจากตู้ ATM ที่รองรับ โดยสถาบันการเงินจะเริ่มคิดดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่มีการเบิกถอน ซึ่งแตกต่างจากการรูดซื้อของที่อาจมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย เป็นบริการที่เน้นความคล่องตัวสูงสุดสำหรับการกู้เงินด่วนในระยะสั้นๆ
7. บัตรเครดิต
แม้ว่าหน้าที่หลักของบัตรเครดิตคือการใช้จ่ายแทนเงินสด (รูดซื้อสินค้า/บริการ) แต่บัตรเครดิตก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือกู้เงินด่วนได้เช่นกัน โดยผ่านบริการ “เบิกถอนเงินสดล่วงหน้า” (Cash Advance) ผู้ถือบัตรสามารถนำบัตรเครดิตไปกดเงินสดจากตู้ ATM ได้เหมือนบัตรกดเงินสด อย่างไรก็ตาม การกู้เงินด่วนด้วยวิธีนี้มีข้อควรระวังสำคัญ คือ อัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก (มักจะสูงสุดตามเพดานที่กฎหมายกำหนด) และมีการคิดค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า (ประมาณ 3% ของยอดที่กด) ทันที
เทคนิคเตรียมตัวกู้เงินด่วนอย่างไรให้อนุมัติไวทันใจ
การที่ต้องการเงินด่วน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรีบร้อนยื่นกู้โดยไม่เตรียมตัว การเตรียมความพร้อมที่ดีคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การขอสินเชื่ออนุมัติไวและผ่านการพิจารณาได้ง่ายขึ้น
1. ตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น
ก่อนยื่นกู้เงินด่วนกับแหล่งเงินกู้ใดก็ตาม ควรอ่านเงื่อนไขและคุณสมบัติผู้สมัครให้ชัดเจน สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน เช่น อายุขั้นต่ำของผู้สมัคร (เช่น 20-60 ปี) และฐานรายได้ขั้นต่ำ (เช่น 10,000 บาท หรือ 15,000 บาทขึ้นไป) การยื่นกู้ในขณะที่คุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์ จะทำให้เสียเวลาและอาจถูกปฏิเสธทันที ซึ่งอาจส่งผลต่อประวัติการขอสินเชื่อในอนาคต
2. เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม
ความล่าช้าในการอนุมัติสินเชื่อเงินด่วน มักเกิดจากการที่ผู้กู้ส่งเอกสารไม่ครบถ้วน ก่อนยื่นกู้ควรเตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อมและตรวจสอบความถูกต้อง ได้แก่ เอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน), เอกสารแสดงรายได้ (สลิปเงินเดือนฉบับล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน) และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) ประมาณ 6 เดือน การเตรียมเอกสารที่ชัดเจนและครบถ้วน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่พิจารณาสินเชื่ออนุมัติไวยิ่งขึ้น
3. รักษาประวัติเครดิตบูโรให้ดี
ประวัติข้อมูลเครดิต (เครดิตบูโร) คือหัวใจสำคัญของการพิจารณาสินเชื่อถูกกฎหมายทุกประเภท สถาบันการเงินจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อประเมินความเสี่ยงและวินัยทางการเงินของผู้กู้ ผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่เคยค้างชำระ หรือชำระล่าช้า ย่อมมีโอกาสได้รับการอนุมัติกู้เงินด่วนได้ง่ายกว่า สำหรับผู้ที่รู้ตัวว่ามีประวัติไม่ดี ควรเคลียร์หนี้เก่าที่ค้างชำระให้เรียบร้อยก่อนยื่นกู้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกู้เงินด่วน
ติดเครดิตบูโร สามารถกู้เงินด่วน ถูกกฎหมายได้หรือไม่
“ติดเครดิตบูโร” มักหมายถึงการมีประวัติค้างชำระ (สถานะ F) หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ (สถานะ TDR) ในข้อมูลเครดิต สำหรับสถาบันการเงินส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะธนาคาร) การมีสถานะดังกล่าวจะทำให้การขอสินเชื่อเงินด่วนเป็นไปได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการสินเชื่อถูกกฎหมายบางกลุ่ม เช่น สินเชื่อที่มีหลักประกัน (จำนำทะเบียนรถ) หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ อาจมีนโยบายที่ยืดหยุ่นกว่า โดยจะพิจารณารายได้ในปัจจุบันหรือมูลค่าของหลักประกันประกอบ แต่ยังคงต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทนั้นๆ
อาชีพอิสระ ไม่มีสลิปเงินเดือน "อยากได้เงินก้อน" ต้องทำอย่างไร
สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ, ฟรีแลนซ์, หรือพ่อค้าแม่ค้า ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ยังคงสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ หากอยากได้เงินก้อนทำไงดี ให้เน้นไปที่สินเชื่อที่ออกแบบมาสำหรับคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ เช่น สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อที่มีหลักประกัน (หากมีรถหรือบ้าน) เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมคือ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6-12 เดือน (Statement) เพื่อแสดงกระแสเงินสดหมุนเวียน, ทะเบียนการค้า (ถ้ามี), หรือสัญญาจ้างงาน เพื่อใช้ยืนยันแหล่งที่มาของรายได้แทนสลิปเงินเดือน
สินเชื่อเงินด่วนที่อนุมัติไวที่สุด ใช้เวลาพิจารณากี่วัน
ความเร็วในการอนุมัติขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก
- ประเภทสินเชื่อ
- ความครบถ้วนของเอกสาร
- ช่องทางการสมัคร
สินเชื่อที่มักจะเป็นสินเชื่ออนุมัติไวที่สุดคือ “สินเชื่อดิจิทัล” (Digital Loan) ที่สมัครผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งอาจทราบผลภายใน 15 นาที – 24 ชั่วโมง หากผู้กู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและยื่นเอกสารถูกต้องผ่านระบบ ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อที่มีหลักประกัน อาจใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1-3 วันทำการ หลังจากได้รับเอกสารครบ
แหล่งเงินกู้ถูกกฎหมาย คิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดได้เท่าไหร่
อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ผู้ให้บริการสินเชื่อถูกกฎหมายสามารถเรียกเก็บได้ จะถูกกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทสินเชื่อ ณ ปัจจุบัน (ข้อมูลอัปเดตปลายปี 2567) เพดานสูงสุดโดยประมาณคือ: สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรกดเงินสด ไม่เกิน 25% ต่อปี, สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ไม่เกิน 24% ต่อปี, และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ไม่เกิน 33% ต่อปี (ทั้งหมดเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หรือ Effective Rate)
ต้องการเงินด่วน แต่ไม่อยากกู้สินเชื่อ มีทางเลือกอื่นอีกไหม
หากคุณต้องการเงินด่วน แต่ไม่ต้องการสร้างหนี้สินเพิ่ม ทางเลือกอื่นที่สามารถพิจารณาได้ ได้แก่
- การขายทรัพย์สินบางอย่างที่ไม่ได้ใช้งาน
- การเจรจาประนอมหนี้หรือขอผ่อนผันการชำระหนี้กับเจ้าหนี้ปัจจุบัน (เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ) เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายชั่วคราว
- การมองหารายได้เสริม หรืองานพาร์ทไทม์เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
- การขอความช่วยเหลือจากครอบครัวหรือเพื่อนสนิท ซึ่งควรทำสัญญาให้ชัดเจนแม้จะเป็นการยืมเงินจากคนใกล้ชิดก็ตาม
สรุปบทความ
การเลือกแหล่งเงินกู้ในยามที่ต้องการใช้เงินด่วนจำเป็นต้องมีสติและรอบคอบ การมุ่งเน้นไปที่สินเชื่อถูกกฎหมายเท่านั้น คือหลักประกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นปัญหาการเงินไปได้โดยไม่สร้างภาระที่หนักหน่วงในอนาคต ควรประเมินความสามารถในการชำระคืนของตนเองและกู้เงินด่วนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และหากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการไถ่ถอนจำนอง หรือต้องการขอสินเชื่อใหม่ เพื่อนแท้ เงินด่วน พร้อมช่วยให้การรีไฟแนนซ์เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่สูงเกินจริง เราให้วงเงินสูงสุดถึง 130% ของราคาประเมิน โดยไม่ต้องเสียเวลาไปจดจำนองใหม่ที่กรมที่ดิน ช่วยให้คุณได้เงินก้อนไปเสริมสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย






