อุบัติเหตุบนท้องถนนในปี 2563 – 2564 เกิดขึ้นมากกว่า 32,190 ครั้ง และเมื่อดูประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดจะเห็นว่ารถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากถึง 20% ของผู้ใช้รถบนถนน ซึ่งคิดเป็นอันดับ 3 ของทั้งหมด โดยเกิดจากการขับรถโดยประมาท มีสาเหตุจากขับขี่เร็วเกินอัตรากำหนดเป็นส่วนใหญ่
แม้อุบัติเหตุบางอย่างจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คนขับขี่รถจักรยานยนต์สามารถลดความรุนแรงจากเหตุการณ์เลวร้ายเหล่านี้ได้ด้วยการเลือกใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่างหมวกกันน็อค ในบทความนี้ เพื่อนแท้ เงินด่วน ขอแนะนำวิธีการเลือกหมวกกันน็อคที่พอดีและเหมาะสมกับขนาดศีรษะของคุณ ด้วยวิธีการ 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. เลือกทรง หมวกกันน็อค ที่ชอบ
ลดความรุนแรงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุด้วยการสวมหมวกกันน็อค ตอนนี้หมวกมีหลายรูปแบบให้ผู้ใช้งานได้เลือกสรร ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามขนาดของหมวก ราคา ความปลอดภัย และส่วนเสริมอื่นๆ ที่รองรับกับความต้องการของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม
หมวกกันน็อค เต็มใบ (Full Face)
ทำความรู้จักกับหมวกกันน็อคเต็มใบสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการปกป้องศีรษะอย่างเต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับคนที่ขับขี่รถเร็วสูง ช่วยลดแรงกระแทกได้ดีที่สุดเพราะมีหน้ากากป้องกันตาและจมูกของผู้ขับขี่ อีกทั้งยังมีส่วนที่ป้องกันคางหรือใบหน้าส่วนล่างอีกด้วย แต่มีการไหลเวียนของอากาศภายในไม่ดีเท่าหมวกประเภทอื่น และสวมใส่ค่อนข้างลำบากสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน
หมวกกันน็อค เปิดหน้า (Open Face)
หมวกกันน็อคเปิดหน้าเป็นอีกประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีกระจกปิดด้านหน้าเพื่อกันลมหรือแมลง และมีส่วนที่ป้องกันบริเวณหูและด้านข้างศีรษะของผู้ขับขี่ แต่ไม่มีการป้องกันคางเพราะหมวกมีการดีไซน์แบบเปิดโล่งข้างล่าง ทำให้มีลมเข้าไปในหมวกซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้งานตาแห้งหรือตาอักเสบได้ อย่างไรก็ตาม หมวกนี้เหมาะกับการขับขี่ภายในเมืองเพราะช่วยป้องกันฝุ่น ลม และควันได้ดีในระดับหนึ่ง
หมวกกันน็อค ยกคาง (Modular)
เมื่อมองจากภายนอก หมวกกันน็อคยกคางมีรูปทรงที่ใกล้เคียงกับหมวกเต็มใบ แต่มีลักษณะพิเศษอยู่ตรงที่ผู้ใช้งานสามารถยกส่วนคางและหน้ากากออกไปได้ซึ่งทำให้หมวกมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เหมาะสำหรับคนขับขี่ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน และความสะดวกสบายตอนจอดรถเติมน้ำมันหรือแวะเข้าข้างทาง ส่วนใหญ่หมวกกันน็อคยกคางเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งาน Bigbike และ Big Scooter
หมวกกันน็อค กึ่งวิบาก (Dual Sport)
หมวกกันน็อคกึ่งวิบาก หรือ ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ มีรูปทรงของหมวกคล้ายกับหมวกวิบาก มีกระจกบังลมเหมือนหมวกกันน็อคเต็มใบ และมีส่วนข้างบนหรือแก้ปที่ยื่นออกมาเพื่อบังแสงแดด เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบขับขี่ในระยะทางไกลในสไตล์ทัวริ่งแอเวนเจอร์ (Touring Adventure) หรือใช้แข่งในสนามแข่ง Racetrack
หมวกกันน็อค วิบาก (Dirt, Motocross)
เนื่องจากคางของผู้ขับขี่เป็นพื้นที่ที่โดนกระแทกบ่อยที่สุดในอุบัติเหตุบนท้องถนน หมวกกันน็อควิบากจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ขับขี่แบบออฟโร้ดหรือมอเตอร์ไซค์วิบากที่มีความอันตรายมากเป็นพิเศษ หมวกกันน็อควิบากจะมีส่วนคางยื่นออกมาเพื่อรองรับการกระแทก มีแก้ปที่บังแดดและบังโคลน รวมถึงมีพื้นที่ให้ผู้ขับขี่สามารถใส่แว่นกันแดดแบบรัดกับตัวหมวกได้
2. รู้ไซส์และขนาดหมวกกันน็อคที่ใช่
เมื่อเลือกหมวกที่ใช่ในทรงที่ชอบได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการหาหมวกที่เหมาะสมกับขนาดศีรษะของคุณ โดยพยายามนิยามหารูปร่างและรอบวงของศีรษะ ซึ่งมีวิธีการหาดังนี้
ขนาดของศีรษะ (Size)
เริ่มโดยใช้สายวัดเล็กๆ ซึ่งคุณอาจใช้สายวัดที่มีไว้สำหรับวัดขนาดรอบตัวก็ได้ หรือใช้เชือกเส้นเล็กแล้วนำไปทาบกับไม้บรรทัดเพื่ออ่านค่าทีหลัง ให้คุณทาบสายวัดบนศีรษะเป็นรอบวงที่ความสูงประมาณเหนือคิ้วหรือวัดส่วนที่กว้างที่สุดของหัว แล้วนำไปเทียบกับตารางขนาดของหมวกกันน็อคที่คุณสนใจซื้อ เราแนะนำให้คนอื่นวัดขนาดศีรษะของคุณเพื่อหาความแม่นยำในไซส์ที่เหมาะสมกับคุณ
รูปร่างของศีรษะ (Shape)
ตัดสินรูปร่างของศีรษะโดยทรงที่เห็นจากมุมบน ซึ่งคุณอาจขอความช่วยเหลือจากคนอื่นให้ถ่ายรูปให้ดู และควรทำผมให้เรียบที่สุดเพื่อเฟ้นหารูปร่างของศีรษะที่ใกล้เคียงที่สุด ปกติแล้วหัวของคนมีทรงอยู่ 3 แบบ คือ
- Round Oval
ลักษณะเป็นรูปไข่ทรงกลม มีความยาวจากหูซ้ายไปหูขวากว้างกว่าขนาดความยาวจากศีรษะด้านหน้าไปด้านหลัง
- Intermediate Oval
มีลักษณะและขนาดที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง 2 รูปร่างที่กล่าวถึง
- Long Oval
ลักษณะเป็นรูปไข่ทรงยาว มีความยาวจากหูซ้ายไปหูขวาแคบกว่าขนาดความยาวจากศีรษะด้านหน้าไปด้านหลัง
3. เช็กคุณสมบัติหมวกกันน็อคเพิ่มเติม
เลือกทรงและรู้ขนาดของหมวกแล้ว ต้องไม่ลืมตรวจสอบฟีเจอร์หรือคุณลักษณะเพิ่มเติมในการเลือกหมวกกันน็อคด้วย นอกจากลดความเสี่ยงในการใช้รถจักรยานยนต์บนท้องถนนแล้ว ความสบายในการใส่ก็จำเป็นเหมือนกัน
น้ำหนักหมวก
เลือกหมวกกันน็อคที่ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป หรือประมาณ 1,400 – 1,800 กรัม หรืออันที่มีการรับรองความปลอดภัยจาก มอก. หมวกกันน็อคที่ดีต้องกระจายน้ำหนักไปที่รอบหัวและหัวไหล่เท่าๆ กัน ถ้าหนักเกินไปหรือไม่เหมาะสมคุณจะรู้สึกหนักและตึงที่คอ แต่ถ้าคุณเลือกหมวกกันน็อคยกคางให้ตระหนักว่าหมวกชนิดนี้จะมีน้ำหนักมากกว่าหมวกชนิดอื่นๆ
วัสดุที่ใช้ทำ
หมวกกันน็อคมีหลายเกรดเพราะวัสดุที่ใช้ทำ ทำให้มีราคา ความสะดวกสบายในการสวมใส่ และน้ำหนักแตกต่างกันออกไป ตัวหมวกกันน็อคมักมีส่วนประกอบเป็นโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate), ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass composites) และคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) ส่วนโฟมข้างในจะเป็นส่วนประกอบของโฟม EPS
ความปลอดภัยเพิ่มเติม
มองหาหมวกกันน็อคที่มีส่วนประกอบเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เช่น หมวกที่มีแก้ปกันแสงแดดแยงตา หรือหมวกที่มีเซฟตี้อย่างนวมรองแก้มที่จะช่วยให้หน่วยฉุกเฉินสามารถดึงหมวกออกจากผู้ขับขี่รถได้ง่ายขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ
4. ดูมาตรฐานความปลอดภัยหมวกกันน็อค
เพราะประเทศไทยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนท้องถนนเป็นจำนวนมากเนื่องจากการขับขี่อย่างประมาท ถ้าคุณกำลังตัดสินใจซื้อและเห็นหมวกกันน็อคถูกใจ ใส่สบาย หรืออยู่ในงบที่กำหนดแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของตัวหมวกด้วย โดยหมวกกันน็อคที่ใช้งานในประเทศไทยต้องมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เลขที่ 369-2557
5. ลองสวมหมวกกันน็อค
คุณควรลองสวมหมวกกันน็อคก่อนซื้อแม้ว่าจะวัดไซส์และเลือกตามขนาดศีรษะแล้ว เพื่อหาว่าหมวกนี้ใส่สบายมากน้อยแค่ไหน เรามีเทคนิคเล็กน้อยให้คุณสังเกต ดังนี้
- ใช้นิ้วมือวัด ถ้าคุณใส่หมวกอยู่ แล้วมีที่ว่างเหลืออยู่ในหมวกมากพอที่จะให้นิ้วสามารถสอดเข้าไปได้ประมาณ 4 นิ้ว แสดงว่าหมวกกันน็อคใบนี้ใหญ่เกินไปสำหรับคุณ
- หมวกที่พอดีควรแน่นและไม่เลื่อนหลุดออกจากศีรษะแม้ว่าคุณจะหันซ้ายขวาหรือก้มหัวลง ถ้าขยับหมวกไปมาต้องรู้สึกถึงด้านข้างของหมวกแนบกับแก้ม ไม่มีวี่แววว่าจะหลุดออกจากหัวหรือหมุนรอบได้
- หมวกที่พอดีไม่ควรหลุด หากคุณล็อกสายรัดคางหมวกกันน็อคแล้ว หมวกต้องไม่หลุดออกหรือไหลออกง่ายเมื่อคุณก้มหรือเงยศีรษะ
ราคาของหมวกกันน็อค
หมวกกันน็อคแพงไม่ได้การันตีความปลอดภัยมากกว่าหมวกกันน็อคที่มีราคาถูก ให้นึกถึงแบรนด์เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือกระเป๋าต่างๆ บางทีราคาที่คุณจ่ายไปเป็นราคาของการออกแบบ เครื่องหมายทางแฟชั่น หรือส่วนประกอบอื่นๆ ที่เสริมเข้ามา แนะนำให้คุณสอบถามกับผู้ขายถึงความแตกต่างของหมวกแต่ละใบหรือขอคำแนะนำจากร้านค้าโดยตรงเพื่อใช้ข้อมูลนำมาประกอบการตัดสินใจ
ต้องเปลี่ยนหมวกกันน็อคตอนไหน
ตั้งใจเลือกหมวกไปแล้ว ต้องไม่ลืมใส่ใจถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนหมวกเมื่อผ่านการใช้งานไปแล้วด้วย เพราะหมวกเมื่อใช้ไปนานๆ จะมีประสิทธิภาพลดลง หากเกิดอุบัติเหตุกับผู้ขับขี่ หมวกกันน็อคที่คุณใช้อยู่อาจช่วยอะไรคุณไม่ได้มาก คุณจึงควรเปลี่ยนเมื่อ
- ทำหมวกกันน็อคตกแรงหรือตกจนหมวกกลิ้งไปมาบนพื้น หรือเคยเกิดอุบัติเหตุเมื่อใช้หมวกนี้ไปแล้ว ควรพิจารณาเปลี่ยนทันที
- ด้านในหมวกมีรอยขูดขีด เพราะอาจมีสิ่งสกปรกเข้าไปอยู่อาศัย และไม่ควรวางหมวกกันน็อคบนกระจกรถบ่อยๆ เพราะขอบกระจกอาจขูดข้างในของหมวกได้
- เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 5 ปีแล้วควรเปลี่ยนใหม่
สรุป - หมวกกันน็อค
และนี่ก็เป็นแนวทางให้ทุกคนเลือกหมวกกันน็อคไปใช้ขับขี่อย่างปลอดภัยบนท้องถนน แต่ใส่แค่หมวกกันน็อคอย่างเดียวไม่อาจป้องกันอุบัติเหตุได้ คุณจึงควรขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาท และวิ่งตามกฎจราจรอยู่อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญ การไม่ใส่หมวกระหว่างขับขี่ถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ร่วมใช้ถนน ซึ่งคุณสามารถมีโทษปรับได้ไม่เกิน 500 บาท และจะถูกปรับเป็น 2 เท่าหากคนซ้อนไม่ใส่หมวกด้ว