กระแสข่าวเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากในสังคมไทย โดยเฉพาะคำค้นหาที่คุ้นหูอย่าง “คนละครึ่งเฟส 2” หรือบางคนเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “เงินดิจิทัลเฟส 2” ซึ่งสร้างความหวังให้กับประชาชนที่กำลังต้องการ เงินหมุน เพื่อมาจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะสรุปทุกประเด็นล่าสุดจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และความคืบหน้าจากกระทรวงการคลัง เพื่อชี้แจงความชัดเจนว่ารูปแบบโครงการจะเป็นอย่างไร ใครบ้างที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์ในรอบนี้ และเม็ดเงินจะถึงมือประชาชนเมื่อไหร่ บทความนี้ “เพื่อนแท้เงินด่วน” จะมาอธิบายเจาะลึกทุกเงื่อนไขให้เข้าใจง่ายและถูกต้องที่สุด
ไทม์ไลน์การจ่ายเงิน คนละครึ่งเฟส 2 เริ่มเมื่อไหร่
จากการติดตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแถลงการณ์จากกระทรวงการคลังล่าสุด มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าการกระจายเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจในคนละครึ่งเฟส 2 นี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน โดยไทม์ไลน์ที่คาดการณ์จากแหล่งข่าวระดับสูงระบุว่า รัฐบาลตั้งเป้าจะเริ่มดำเนินการโอนเงินให้แล้วเสร็จภายใน “ก่อนวันตรุษจีนปี 2568” หรือประมาณช่วงปลายเดือนมกราคม 2568
สาเหตุที่กำหนดช่วงเวลานี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยสูง เหมาะแก่การอัดฉีด เงินหมุน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยความชัดเจนเกี่ยวกับงบประมาณและรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่สมบูรณ์ภายในเดือนธันวาคม 2567 นี้ ทั้งนี้ การดำเนินการในเฟส 2 จะมีความแตกต่างจากเฟสแรกตรงที่จะเน้นไปที่กลุ่มเปราะบางที่ตกหล่นและกลุ่มผู้สูงอายุเป็นหลัก ซึ่งอาจมีการดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการสวัสดิการอื่นๆ เพื่อให้เกิด เงินหมุน เวียนในระบบได้อย่างต่อเนื่องและทั่วถึงที่สุด
สรุปใครได้สิทธิ์บ้าง เช็กเงื่อนไขกลุ่มเป้าหมาย
โจทย์ใหญ่ของภาครัฐในรอบนี้คือการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายในเฟส 2 จึงมีการกำหนดเกณฑ์คัดกรองที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้มั่นใจว่า เงินหมุน ก้อนนี้จะถึงมือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
กลุ่มเป้าหมายหลักที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะได้รับสิทธิ์ในเฟส 2 คือ “กลุ่มผู้สูงอายุ” เนื่องจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าเป็นกลุ่มที่มีภาระค่าใช้จ่ายและมีสภาพคล่องของ เงินหมุน ในมือน้อยกว่าวัยทำงาน โดยมีรายละเอียดเกณฑ์ดังนี้
- เกณฑ์อายุ ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (นับถึงวันที่กำหนดปิดรับลงทะเบียน หรือวันที่รัฐกำหนดตัดรอบตรวจสอบสิทธิ์ ซึ่งต้องรอประกาศวันที่ชัดเจนอีกครั้ง)
- เงื่อนไขรายได้และเงินฝาก เป็นไปตามเกณฑ์เดิมของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือ ต้องมีรายได้พึงประเมินไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี (เฉลี่ย 70,000 บาทต่อเดือน) และมีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
- เงื่อนไขสำคัญ ต้องไม่เป็นกลุ่มเปราะบาง (ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้พิการ) ที่ได้รับเงิน 10,000 บาทในเฟส 1 ไปแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการจัดสรร เงินหมุน จากภาครัฐ
กลุ่มบุคคลทั่วไป (ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ)
สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเปราะบาง แต่อยู่ในวัยทำงานและได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ไว้แล้ว
- สถานะปัจจุบัน: หากท่านลงทะเบียนไว้สมบูรณ์แล้ว ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บไว้ในระบบเพื่อรอการพิจารณาใน “เฟส 3” หรือระยะถัดไป
- เงื่อนไขการตัดสิทธิ์ หากท่านเป็นผู้ที่เคยทำผิดเงื่อนไขโครงการรัฐในอดีต หรือมีคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์รายได้และเงินฝาก ระบบจะทำการตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติ ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาระบบการจ่ายเงินแบบ Digital Wallet ให้มีความเสถียรมากที่สุดก่อนจะเปิดให้กลุ่มนี้ได้ใช้สิทธิ์ เพื่อให้การใช้จ่าย เงินหมุน ในระบบดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่น
ข้อควรรู้และคำเตือนก่อนรับสิทธิ์
ในยุคดิจิทัล การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลการเงินเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อมีโครงการแจกเงินจากรัฐ มักจะมีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาส
- ระวังมิจฉาชีพ ทางรัฐบาล ไม่มีนโยบาย ส่ง SMS แนบลิงก์ให้กดรับสิทธิ์ หรือโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลส่วนตัว หากพบเห็นให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพทันที การกดลิงก์แปลกปลอมอาจทำให้สูญเสีย เงินหมุน ในบัญชีของท่านจนหมดเกลี้ยง
- การรักษาสิทธิ์ หมั่นตรวจสอบแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เป็นระยะ และหากมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือบัญชีพร้อมเพย์ ให้รีบดำเนินการแก้ไขให้เป็นปัจจุบัน เพราะหากข้อมูลผิดพลาด การโอนเงินอาจล่าช้าหรือถูกระงับสิทธิ์ได้ การมีข้อมูลที่ถูกต้อง (KYC) คือกุญแจสำคัญในการรับสิทธิ์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคนละครึ่งเฟส 2
คนละครึ่งเฟส 2 เริ่มลงทะเบียนวันไหน?
ขณะนี้รัฐบาลยังไม่เปิดลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่ง” ในรูปแบบเดิม (รัฐช่วยจ่าย 50%) แต่เป็นการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 (แจกเงิน 10,000 บาท) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินให้กลุ่มผู้สูงอายุในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 (ต้อนรับตรุษจีน) ส่วนการลงทะเบียนรอบเก็บตกต้องรอประกาศจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
ใครบ้างที่มีสิทธิ์ในเฟส 2 รอบนี้?
กลุ่มเป้าหมายหลักในเฟส 2 คือ ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีการลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว (รายได้ไม่เกิน 70,000 บาท/เดือน และเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท) และต้องไม่เคยได้รับเงินในเฟสแรกมาก่อน หากท่านเข้าเกณฑ์นี้ จะได้รับ เงินหมุน เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพ
คนทั่วไปที่ลงทะเบียนแอปทางรัฐไว้ จะได้เงินไหม?
ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐแต่ไม่ใช่อายุ 60 ปีขึ้นไป จะจัดอยู่ในกลุ่มเฟส 3 หรือระยะถัดไป ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาระบบการจ่ายเงิน (Digital Wallet) คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568
ได้เงินเป็นเงินสด หรือต้องใช้ผ่านแอปเป๋าตัง?
สำหรับเฟส 2 ที่แจกให้ผู้สูงอายุ มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีพร้อมเพย์ (ผูกกับเลขบัตรประชาชน) เพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายและเพิ่ม เงินหมุน ให้กับผู้สูงวัย แต่หากเป็นเฟสต่อๆ ไปสำหรับบุคคลทั่วไป รัฐบาลยังคงเป้าหมายที่จะใช้ระบบ Digital Wallet ผ่านแอปทางรัฐ
สรุปบทความ
แม้มาตรการรัฐอย่างคนละครึ่งเฟส 2 จะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจ แต่สำหรับหลายครอบครัว การรอคอยอาจไม่ทันต่อความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละวัน หรือบางครั้งยอดเงินช่วยเหลืออาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาหนี้สินก้อนใหญ่ หากคุณกำลังมองหา เงินหมุน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ หรือต้องการปิดหนี้นอกระบบ “เพื่อนแท้ เงินด่วน” พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับคุณ เราให้บริการสินเชื่อโฉนดที่ดินที่ช่วยให้การไถ่ถอนจำนอง หรือการขอสินเชื่อใหม่เป็นเรื่องง่าย ตัดความกังวลเรื่องดอกเบี้ยจำนองที่สูงเกินจริง หรือขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน
ที่เพื่อนแท้ เงินด่วน เราให้วงเงินสูงสุดถึง 130% ของราคาประเมิน* เพื่อให้คุณมี เงินหมุน เพียงพอตามความต้องการ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปจดจำนองที่กรมที่ดิน (ในบางเงื่อนไข) อนุมัติไว ได้เงินเร็ว และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้คุณก้าวผ่านทุกวิกฤตการเงินไปได้อย่างมั่นคง







