เตรียมตัวให้พร้อม ตรวจสุขภาพทำใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ ต้องทำยังไงบ้าง

ใบรับรองแพทย์เป็นเอกสารที่มีความสำคัญในการยืนยันว่าผู้ขอมีสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่พาหนะต่าง ๆ โดยรวมแล้วมีการตรวจสุขภาพทั่วไปและการตรวจสายตา เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่มีความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ทางถนนอย่างปลอดภัย

ใบขับขี่ไม่เพียงแต่เป็นเอกสารที่ให้สิทธิในการควบคุมพาหนะเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความรับผิดชอบและความสามารถในการจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการขับขี่และมีผลต่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน

ใบรับรองแพทย์ใช้ทำใบขับขี่คืออะไร

ใบรับรองแพทย์ที่ใช้ทำใบขับขี่คือเอกสารที่แพทย์หรือผู้ที่มีความรู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ลงนามในการรับรองว่าผู้ขอขับขี่มีสุขภาพที่เหมาะสมในการขับขี่รถหรือพาหนะต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงการตรวจสุขภาพทั่วไปและการตรวจสายตา การได้รับใบรับรองแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นในการขอขับขี่รถบางประเภท เช่น รถยนต์ จักรยานยนต์ หรือรถบรรทุก เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่มีสุขภาพที่ดีพอที่จะควบคุมพาหนะได้อย่างปลอดภัยและมีสมรรถภาพที่เพียงพอในการขับขี่ ในบางท้องถิ่น การตรวจสุขภาพเพื่อใบขับขี่อาจจำเป็นต้องทำตามกฎหมายด้วย แต่ในบางท้องถิ่นอาจไม่จำเป็น แต่ยังคงเป็นประโยชน์สำหรับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และคนอื่นๆ บนท้องถิ่นนั้นๆด้วย

ใบรับรองแพทย์ใบขับขี่

ข้อมูลในใบรับรองแพทย์ใบขับขี่

ข้อมูลที่สำคัญในการขอใบรับรองแพทย์ใบขับขี่ จำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลครบถ้วนตามที่กรมขนส่งกำหนดขึ้น ทั้งนี้ผู้ที่จะทำใบขับขี่จะต้องดูให้ดีว่าควรไปทำที่ไหนเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปทำใหม่

สำหรับผู้ขอรับใบรับรองสุขภาพ

ใบรับรองแพทย์ที่ใช้สำหรับใบขับขี่มีการระบุว่าผู้ขอมีหรือไม่มีประวัติสุขภาพดังต่อไปนี้

  • โรคประจำตัว
  • อุบัติเหตุและการผ่าตัด
  • เคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล(เพื่อดูว่าเกี่ยวข้องกับการขับขี่หรือไม่)
  • โรคลมชัก
  • ประวัติอื่นที่สำคัญ

สำหรับแพทย์

แพทย์จำเป็นต้องรับรองว่าผู้ที่มาทำการตรวจสุขภาพเพื่อขอใบรับรองแพทย์เพื่อใบขับขี่มีสุขภาพที่ดีพอที่จะไม่มีอาการทางจิตที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ไม่มีปัญหาสุขภาพที่มีผลต่อความสามารถในการทำงานหรือการขับขี่ ไม่มีประวัติการติดสารเสพติดหรือใช้สารเสพติดหรือพิษสุราเรื้อรัง และไม่มีอาการของโรคต่างๆ อันเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ โดยรวมแล้ว ผู้ที่มาทำการตรวจสุขภาพเพื่อขอใบรับรองแพทย์เพื่อทำใบขับขี่จะต้องมีสุขภาพที่ดีและเหมาะสมเพียงพอในการปฏิบัติงานหรือขับขี่อย่างปลอดภัย ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

  • โรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือระยะที่ปรากฏอาการอันเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม
  • วัณโรคในระยะอันตราย
  • โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการอันน่ารังเกียจต่อสังคม
  • อื่นๆ (ถ้ามี)

ต้องตรวจอะไรบ้างถึงจะได้ใบรับรองแพทย์

การทำใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ จำเป็นที่จะต้องตรวจโรคให้ละเอียดเพื่อให้ผู้ขับขี่มีความพร้อมและไม่เป็นปัญหาต่อการขับรถนั่นเอง

  • โรคเรื้อน / Leprosy
  • วัณโรคระยะอันตราย / Advanced Pulmonary Tuberculosis
  • โรคยาเสพติดให้โทษ / Drug addiction
  • โรคพิษสุราเรื้อรัง / Chronic alcoholism
  • โรคเท้าช้าง / Elephantiasis

เอกสารที่ต้องใช้

เอกสารที่ใช้ทำใบขับขี่จำเป็นมากที่ผู้ต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้างเตรียมไปให้ครบ นอกเหนือจากนั้นจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับโรคประจำตัวไปด้วยนะครับ

  • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
  • สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด (สำหรับผู้ที่ทำใบขับขี่ใบแรก)
  • ใบขับขี่ใบเก่า (สำหรับผู้ที่ต่ออายุใบขับขี่)
  • ใบรับรองแพทย์ฉบับจริง

ใบรับรองแพทย์ใบขับขี่มีอายุกี่วัน

ใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่จะมีอายุ 30 วัน หรือไม่เกิน 1 เดือน หากเกินกว่านั้นผู้ที่จะทำใบขับขี่ต้องไปตรวจร่างกายใหม่

สำหรับผู้ที่ต้องการขอใบอนุญาตขับขี่ทั้งการขอครั้งแรกหรือการต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ของตนเองตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก จำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์สำหรับขอทำใบอนุญาตขับขี่จากคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสภาแพทย์เท่านั้น

หากไม่ต่อใบขับขี่มีโทษอย่างไรบ้าง

หากคุณขับขี่รถเป็นประจำแต่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ก็จะมีความผิดตามกฎหมายได้ ดังนั้นคุณต้องต้องทำใบขับขี่และต้องต่อใบขับขี่ทุกครั้งอย่าให้หมดอายุ

  • มาตราที่ 64 ขับรถไม่มีใบขับขี่ ต้องระวางโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • มาตราที่ 65 ใบขับขี่หมดอายุหรือถูกยึดมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • มาตราที่ 66 ไม่แสดงใบขับขี่ให้เจ้าหน้าที่เห็นหรือไม่พกใบขับขี่มีโทษปรับ 1,000 บาท

สรุป

ใบรับรองแพทย์เป็นเอกสารที่แพทย์ลงนามรับรองว่าผู้ขอมีสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่พาหนะ มีความสำคัญในการขอใบขับขี่ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่มีสุขภาพที่ดีพอที่จะควบคุมพาหนะได้อย่างปลอดภัย ใบขับขี่ไม่เพียงแต่ให้สิทธิในการขับขี่ แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความรับผิดชอบและความสามารถในการจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการขับขี่ และมีผลต่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม