ในชีวิตของคนเรานั้นมีช่วงเวลาที่จำเป็นต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเหตุฉุกเฉินจากปัญหาสุขภาพ การตกงาน หรือการลงทุนในโอกาสที่ไม่อาจรอช้า ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการด้านการเงินจำนวนมาก อย่างเช่น เพื่อนแท้เงินด่วน ที่มองว่า“บ้าน” ที่เป็นทรัพย์สินสำคัญของชีวิตของคุณ สามารถช่วยให้คุณมีทางออกได้ โดยที่ไม่ต้องขายบ้านหรือสูญเสียที่อยู่อาศัย การใช้บริการ “บ้านแลกเงิน” คือทางเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลจริงสำหรับคนที่ต้องการ เงินด่วนทันใจ
ทำไมคนไทยยุคนี้มีความต้องการเงินด่วนกันมากขึ้น ?
1.เกิดเหตุต้องใช้จ่ายฉุกเฉิน
เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล หรือการซ่อมแซมบ้าน อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และหลายคนไม่มีเงินสำรองพร้อมใช้
2.มีหนี้สินที่สะสมและขาดสภาพคล่อง
หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถ หนี้รายเดือนอื่น ๆ ล้วนสร้างภาระการเงินที่สะสมขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งต้องหาเงินก้อนมาปลดหนี้เพื่อให้มีรายจ่ายที่สามารถควบคุมได้
3.รายได้ไม่แน่นอนในเศรษฐกิจผันผวน
ในยุคที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง หลายอาชีพประสบปัญหาด้านรายได้ รายรับไม่พอรายจ่าย หรือประกอบอาชีพอิสระที่ไม่สามารถคาดการณ์ความมั่นคงทางการเงินได้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องการเข้าถึงแหล่งบริการทางการเงิน
บ้านแลกเงิน คืออะไร?
บ้านแลกเงิน คือการนำโฉนดบ้านหรือทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้ ไปยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยใช้ทรัพย์นั้นเป็นหลักประกันเพื่อแลกกับวงเงินกู้ ซึ่งผู้กู้ยังสามารถอยู่อาศัยในบ้านได้ตามปกติ ไม่ต้องย้ายออกหรือละทิ้งทรัพย์สิน
หลักการทำงานของ บ้านแลกเงิน
ธนาคารหรือผู้ให้กู้จะทำการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน และกำหนดวงเงินที่สามารถให้กู้ได้ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 70–90% ของราคาประเมิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ให้บริการ วงเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้กู้หลังจากขั้นตอนอนุมัติ และจดจำนองเสร็จสิ้น
บริการนี้มีเพื่อใคร ?
บริการบ้านแลกเงิน เหมาะสำหรับบุคคลที่มีทรัพย์สินเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีรายได้ประจำ ผู้ประกอบการ SME หรือแม้แต่ผู้เกษียณอายุที่ต้องการเงินสดเพื่อใช้ในยามจำเป็น กลุ่มคนที่บ้านปลอดภาระหนี้ หรือเหลือวงเงินให้กู้ต่อจากภาระเดิม ก็สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้เช่นกัน
ข้อดีของบริการบ้านแลกเงิน
1.ได้วงเงินสูงตามมูลค่าบ้าน
ต่างจากสินเชื่อส่วนบุคคลที่วงเงินจำกัด การนำบ้านมาเป็นหลักประกันทำให้คุณสามารถกู้ได้เป็นหลักแสนถึงหลักล้าน ขึ้นอยู่กับมูลค่าทรัพย์สิน
2.ดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินกู้อื่น
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับบ้านแลกเงินมักเริ่มต้นที่ประมาณ 4% ต่อปี ซึ่งถูกกว่าบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจสูงถึง 18% ต่อปี
3.ผ่อนจ่ายได้นานถึง 30 ปี
คุณสามารถเลือกผ่อนชำระระยะยาว ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลง ช่วยลดภาระรายจ่ายในชีวิตประจำวัน
ข้อควรระวังก่อนใช้บริการบ้านแลกเงิน
1.ความเสี่ยงในการสูญเสียบ้าน
หากคุณไม่สามารถผ่อนชำระตามเงื่อนไขของบริการบ้านแลกเงิน สถาบันการเงินมีสิทธิ์ยึดทรัพย์สินได้ ผู้กู้จึงต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ
2.ค่าธรรมเนียมแฝง
เช่น ค่าประเมิน ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการจัดการ และค่าใช้จ่ายเบี้ยปรับกรณีปิดบัญชีก่อนกำหนด ดังนั้นจึงควรสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดก่อนทำสัญญา
3.ผลกระทบทางเครดิตหากผิดนัดชำระ
การผิดนัดชำระอาจถูกบันทึกในประวัติสินเชื่อ ทำให้การขอสินเชื่ออื่นในอนาคต มีความยากขึ้น และอาจมีผลต่อเครดิต
เปรียบเทียบ บ้านแลกเงิน vs รีไฟแนนซ์
1.ความแตกต่าง
- บ้านแลกเงิน: เป็นการใช้บ้านเป็นหลักประกันเพื่อขอเงินก้อนมาใช้
- รีไฟแนนซ์: คือการเปลี่ยนแปลงสัญญาสินเชื่อเดิมไปยังสถาบันการเงินใหม่เพื่อลดดอกเบี้ยหรือปรับเงื่อนไข
2.จุดประสงค์ของผู้ใช้บริการแต่ละประเภท
การนำบ้านมาแลกเปลี่ยนเป็นเงิน เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินสดทันที ส่วนรีไฟแนนซ์เหมาะกับคนที่มีภาระสินเชื่อบ้านเดิม แต่ต้องการประหยัดดอกเบี้ย
3.แต่ละบริการเหมาะกับใคร ?
บ้านแลกเงินเหมาะกับคนที่มีทรัพย์สินและต้องการเงินทุน แต่รีไฟแนนซ์เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนลดหนี้ระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน
1.ตรวจสอบทรัพย์สินและวงเงินเบื้องต้น
ก่อนเริ่มต้นใช้บริการบ้านแลกเงินผู้กู้ควรตรวจสอบว่าอสังหาริมทรัพย์ที่ตนถือครองนั้นมีสถานะปลอดภาระหรือเหลือวงเงินกู้เท่าใด ธนาคารจะประเมินจากตำแหน่งที่ตั้ง สภาพทรัพย์สิน และราคาตลาดในปัจจุบัน เพื่อประเมินวงเงินที่สามารถอนุมัติได้
2.เตรียมเอกสารที่จำเป็น
ขั้นตอนถัดมาคือการรวบรวมเอกสารประกอบการสมัคร เช่น โฉนดบ้าน บัตรประชาชน เอกสารแสดงรายได้ และรายการเดินบัญชี เพื่อยื่นให้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ
3.อนุมัติและรับเงินภายในกี่วัน?
หากเอกสารครบถ้วนและไม่มีปัญหาทางเครดิต ผู้กู้สามารถได้รับการอนุมัติภายใน 3–7 วันทำการ หลังจากนั้นจะมีการเซ็นสัญญาและโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรง
เอกสารที่ต้องใช้ในบริการบ้านแลกเงิน
1.เอกสารส่วนบุคคลและเจ้าของบ้าน
- บัตรประจำตัวประชาชน (ของผู้ขอกู้และคู่สมรสถ้ามี)
- ทะเบียนบ้าน
- ทะเบียนสมรส / หย่า (ถ้ามี)
2.เอกสารทางการเงินและหลักฐานรายได้
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
- หรือ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- หนังสือรับรองเงินเดือน (ถ้ามี)
3.เอกสารกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
- โฉนดที่ดิน / โฉนดบ้าน
- แผนผังบ้าน / รูปถ่ายทรัพย์
- เอกสารรับรองการก่อสร้าง (หากบ้านสร้างเอง)
บริการทางการเงินอื่น ๆ นอกจากบ้านแลกเงิน
1.สินเชื่อส่วนบุคคล
ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเหมือน บ้านแลกเงิน แต่มีดอกเบี้ยสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการวงเงินไม่มากและมีรายได้มั่นคง
2.โฉนดแลกเงิน
เป็นการนำโฉนดที่ดินเปล่า มาแลกเปลี่ยนเป็นเงิน โดยที่มีเงื่อนไขตามแต่ละผู้ให้บริการทางการเงินจะกำหนด
ทำไม บ้านแลกเงิน ถึงเป็นบริการที่น่าสนใจ ในภาวะเศรษฐกิจไทย ณ ตอนนี้
1.แนวโน้มการใช้สินเชื่อในปี 2025
ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าการใช้บริการสินเชื่อบ้านแลกเงินมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนต้องการสภาพคล่องสูงในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
2.บทบาทของบ้านในฐานะทรัพย์เพื่อสภาพคล่อง
บ้านที่เคยเป็นแค่ที่อยู่อาศัย กลายเป็นทรัพย์สินที่ช่วยแก้ปัญหาการเงินเฉพาะหน้าได้ในระยะสั้น โดยไม่จำเป็นต้องสูญเสียกรรมสิทธิ์หากจัดการการเงินอย่างรอบคอบ แม้แต่ที่ดินเปล่าเอง ในปัจจุบันก็ยังมีคนจำนวนมากนำมาใช้บริการ โฉนดแลกเงิน เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้มากขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ บ้านแลกเงิน (FAQ)
สรุปบ้านแลกเงิน: ทางออกของคนต้องการเงินด่วน
หากคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องใช้เงินแบบฉุกเฉิน การใช้บริการ “บ้านแลกเงิน” เพื่อเข้าถึงเงินด่วนทันใจก็ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สามารถเปลี่ยนทรัพย์สินให้กลายเป็นสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็ว โดยยังคงรักษากรรมสิทธิ์บ้านไว้ได้ ทั้งนี้ ผู้กู้ควรศึกษาเงื่อนไข เปรียบเทียบผู้ให้บริการ และวางแผนการชำระหนี้อย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัยในระยะยาว
สุดท้ายนี้หากคุณมีความจำเป็นด้านการเงิน ทาง เพื่อนแท้เงินด่วน ยินดีให้บริการ เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษา เพื่อหาทางออกด้านการเงินให้กับคุณ
