“สินเชื่อโฉนดที่ดิน” ถือเป็นหนึ่งในสินเชื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุดของคนไทย เนื่องจากสามารถใช้ โฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าและเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันที่มั่นคง เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินทุนได้ทันที โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ต้องการกู้เงินมีสองทางเลือกหลัก ๆ ได้แก่
- ขอสินเชื่อโฉนดที่ดินจากธนาคาร (สถาบันการเงินหลัก)
- ขอสินเชื่อโฉนดที่ดินจากผู้ให้กู้ที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น บริษัทสินเชื่อ พิโกไฟแนนซ์ ไฟแนนซ์ท้องถิ่น หรือบริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาต
ทั้งสองรูปแบบมีข้อดี ข้อเสีย เงื่อนไข และขั้นตอนที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกว่า สินเชื่อโฉนดที่ดินกับธนาคารและที่ไม่ใช่ธนาคาร แตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ผู้ที่กำลังมองหาเงินกู้สามารถเลือกได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของตนเอง
เงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้กู้
ธนาคาร
- คุณสมบัติผู้กู้เข้มงวดกว่า ต้องมีรายได้ประจำ มีสลิปเงินเดือนหรือเอกสารยืนยันรายได้ชัดเจน
- เครดิตบูโรสำคัญมาก หากมีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี โอกาสอนุมัติน้อย
- วงเงินกู้ขึ้นอยู่กับการประเมินมูลค่า ธนาคารมักปล่อยกู้ที่ 50–70% ของราคาประเมินที่ดิน
- ดอกเบี้ยต่ำกว่า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6–12% ต่อปี
ที่ไม่ใช่ธนาคาร
- เงื่อนไขผ่อนคลายกว่า เปิดกว้างให้ผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น พ่อค้าแม่ค้า ฟรีแลนซ์
- ไม่เน้นเครดิตบูโรมากนัก แม้จะมีประวัติค้างชำระก็ยังมีโอกาสกู้ได้
- วงเงินกู้สูงกว่า บางแห่ง เช่น บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด อนุมัติสูงสุดถึง 130% ของราคาประเมิน
- ดอกเบี้ยสูงกว่าเล็กน้อย อยู่ที่ 15–24% ต่อปี แต่ยังอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด
ขั้นตอนการกู้และความรวดเร็วในการอนุมัติ
ธนาคาร
- ต้องเตรียมเอกสารหลายอย่าง เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือนย้อนหลัง
- กระบวนการอนุมัตินาน อาจใช้เวลาตั้งแต่ 7 วัน ไปจนถึง 1 เดือน
- ต้องไปจดจำนองที่กรมที่ดิน ใช้เวลามาก
ที่ไม่ใช่ธนาคาร
- ขั้นตอนง่ายและเร็วกว่า ใช้เพียง โฉนดที่ดินตัวจริง บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และสมุดบัญชีธนาคาร
- ระยะเวลาอนุมัติสั้น ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1–3 วัน
- ไม่ต้องเสียเวลาไปจดจำนองที่กรมที่ดิน กรณีบริษัทอย่าง เพื่อนแท้ เงินด่วน จะมีทีมงานอำนวยความสะดวกให้ครบ
ความยืดหยุ่นของการผ่อนชำระ
ธนาคาร
- มีแผนการผ่อนชำระระยะยาว ตั้งแต่ 3–30 ปี
- ผ่อนต่อเดือนน้อย แต่ต้องใช้เวลานาน
- มีค่าปรับหากปิดบัญชีก่อนกำหนด
ที่ไม่ใช่ธนาคาร
- เน้นความยืดหยุ่น เลือกผ่อนสั้นหรือยาวได้ตามความสามารถ
- บางแห่งเปิดให้ ผ่อนชำระรายเดือน รายปี หรือแบบโปะปิดได้
- ไม่มีค่าปรับกรณีปิดบัญชีก่อนกำหนด (ขึ้นกับเงื่อนไขแต่ละบริษัท)
- เหมาะกับคนที่ต้องการกู้เงินด่วน ใช้สั้น ๆ และคืนเร็ว
ความคุ้มค่าและความเสี่ยง
ธนาคาร
- ได้ดอกเบี้ยถูกกว่า แต่ต้องแลกกับขั้นตอนที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน
- ความเสี่ยงต่ำเพราะอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย
- เหมาะกับคนที่มีเครดิตดี รายได้มั่นคง และไม่รีบร้อนใช้เงิน
ที่ไม่ใช่ธนาคาร
- จุดแข็งคือ ความรวดเร็วและวงเงินสูง
- เหมาะกับคนที่ต้องการเงินด่วน หรือต้องการใช้ที่ดินเปล่าไปต่อยอดธุรกิจ
- ความเสี่ยงคือดอกเบี้ยสูงกว่า แต่หากเลือกบริษัทที่ถูกกฎหมายและมีชื่อเสียง เช่น เพื่อนแท้ เงินด่วน ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัย
เปรียบเทียบข้อดี–ข้อเสียอย่างชัดเจน
ประเด็น | ธนาคาร | ที่ไม่ใช่ธนาคาร |
เงื่อนไขผู้กู้ | เข้มงวด เน้นรายได้และเครดิต | ยืดหยุ่น เปิดกว้างสำหรับอาชีพอิสระ |
วงเงินกู้ | 50–70% ของราคาประเมิน | สูงสุดถึง 130% ของราคาประเมิน (เช่น เพื่อนแท้ เงินด่วน) |
ดอกเบี้ย | ต่ำกว่า (6–12% ต่อปี) | สูงกว่าเล็กน้อย (15–24% ต่อปี) |
ระยะเวลาอนุมัติ | ช้า 1–4 สัปดาห์ | เร็ว 1–3 วัน |
ขั้นตอน | เอกสารเยอะ ต้องจดจำนอง | เอกสารน้อย ไม่ต้องจดจำนองเอง |
การผ่อนชำระ | ระยะยาว ผ่อนนาน | ยืดหยุ่น เลือกสั้น–ยาวได้ |
เหมาะกับใคร | คนมีเครดิตดี รายได้มั่นคง | คนต้องการเงินด่วน หรือมีรายได้ไม่แน่นอน |
สรุป
สินเชื่อโฉนดที่ดินเป็นอีกหนึ่งทางเลือกทางการเงินที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่มีรายได้มั่นคงและผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน หากคุณเลือกกู้กับ ธนาคาร จะได้ประโยชน์เรื่องดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขที่มั่นคง แต่ต้องแลกกับขั้นตอนที่ซับซ้อนและระยะเวลาการอนุมัติที่นาน ในขณะที่การกู้กับ ที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด จะได้ความรวดเร็ว วงเงินสูง และความยืดหยุ่นในการผ่อนชำระ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วน ใช้ที่ดินเปล่าเป็นทุนต่อยอดธุรกิจ หรือแก้ปัญหาการเงินเฉพาะหน้า
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือก ควรพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ ความเร่งด่วนของการใช้เงิน และความคุ้มค่าที่จะได้รับ เพื่อให้การใช้ สินเชื่อโฉนดที่ดิน สอดคล้องกับความต้องการและไม่เป็นภาระในระยะยาว