ขั้นตอนการแต่งงานสำหรับคู่บ่าว สาวมือใหม่​

การวางแผนแต่งงานนั้นเหมือนกับการเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่รู้จักโดยไม่มีแผนที่ มันสามารถทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน ถ้าคุณเป็นบ่าวสาวมือใหม่ที่กำลังมองหาขั้นตอนการแต่งงาน คุณมาถูกที่แล้ว! มาร่วมเดินทางไปกับเรา และเราจะทำให้ทุกขั้นตอนเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับคุณ.

ขั้นตอนการแต่งงานสำหรับคู่บ่าว สาวมือใหม่

เมื่อได้ฤกษ์แต่งงานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาจัดเตรียมงานแต่งงาน ซึ่งแน่นอนว่ามีรายละเอียดมากมาย ที่คุณต้องจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้น โดยรายละเอียดการจัดงานแต่ง มีดังนี้

1. เตรียมหาฤกษ์แต่งงาน

การหาฤกษ์งานแต่งต้องดูความสะดวกของคู่บ่าว-สาวเป็นหลัก เพื่อให้มีเวลาในการจัดงานด้วย ซึ่งการหาฤกษ์มงคลสามารถให้พระเกจิดัง หรือชินแสเป็นคนดูให้ว่า ควรหาฤกษ์แต่งงาน 2567 วันไหนดี นอกจากนั้นควรนำวันเดือนปีเกิดของบ่าวสาวมาดู เพื่อให้ได้วันที่เหมาะสมที่สุดด้วย

ฤกษ์แต่งงาน 2567

2. งบประมาณการจัดงานแต่ง

การจัดงานแต่งจะต้องมีการตั้งงบประมาณไว้เป็นลำดับแรก เพื่อให้รู้ว่างานจะออกมาประมาณไหน และต้องใช้เงินในการจัดงานประมาณเท่าไหร่ หากมีอะไรเกินงบการจัดฤกษ์แต่งงานก็จะควรตัดออกทันที

3. ลิสต์รายชื่อแขกร่วมงาน

เมื่อตั้งงบประมาณจัดงานแต่งได้แล้ว ก็จะรู้ทันทีว่าสามารถเชิญแขกได้กี่คน ละอันดับแรกต้องลิสต์รายชื่อญาติคนสำคัญของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก่อน จากนั้นก็ลิสต์รายชื่อคนสำคัญที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวนับถือ เพื่อนสนิท เพื่อนสมัยเรียน เป็นต้น

4. สถานที่จัดงาน

เมื่อรู้จำนวนผู้เข้าร่วมงานแล้ว ก็ต้องเลือกสถานที่จัดงานตามฤกษ์แต่งงานให้เหมาะสม หากมีแขกไม่มาก และอยากเซฟงบประมาณในการจัดงาน ก็ควรเลือกจัดงานที่บ้าน แต่หากมีผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก ควรเลือกจัดที่โรงแรมดีกว่า เพราะจะได้รับความสะดวกสะบาย จะมีที่จอดรถเพียงพอ และมีพื้นที่มากพอในการรองรับแขก

สัญลักษณ์มงคลสมรส

  1. ซองจดหมายสีแดงหรือ “หงเปา” ในวัฒนธรรมจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและเต็มไปด้วยเงินและมอบให้กับคู่รักเป็นของขวัญ
  2. แหวนแต่งงานในวัฒนธรรมตะวันตกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันชั่วนิรันดร์ระหว่างคู่รัก
  3. ผ้าคลุมหน้างานแต่งงานในหลายวัฒนธรรมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสาของเจ้าสาว
  4. ช่อดอกไม้งานแต่งงานซึ่งมักจะเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความอุดมสมบูรณ์ และความโชคดี
  5. เค้กแต่งงานซึ่งตามธรรมเนียมแล้วคู่รักจะร่วมกันตัดและเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและการเป็นหุ้นส่วนของพวกเขา
  6. มณฑป แท่นบูชาตามประเพณีในงานแต่งงานของชาวฮินดู ซึ่งประดับด้วยดอกไม้และสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองอื่นๆ
  7. Chuppah หลังคาที่ใช้ในงานแต่งงานของชาวยิว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขึ้นบ้านใหม่ของทั้งคู่
  8. “บ่วงบาศ” หรือ “เชือกแห่งความรัก” ในงานแต่งงานของชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเชือกหรือเชือกที่พันรอบไหล่ของคู่รักเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของพวกเขา
  9. การ์ดเชิญงานแต่งงานซึ่งมักประดับด้วยสัญลักษณ์แห่งความรัก เช่น หัวใจหรือนกพิราบ และทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์แทนความตั้งใจของคู่บ่าวสาวที่จะแต่งงานกัน

การตกแต่งงานแต่งงานมงคล​

  1. สัญลักษณ์แห่งความโชคดี เช่น เกือกม้า ใบโคลเวอร์สี่แฉก หรือสัญลักษณ์อินฟินิตี้
  2. ดอกไม้ ซึ่งมักถูกเลือกตามความหมายเชิงสัญลักษณ์ และอาจรวมถึงดอกกุหลาบ (สัญลักษณ์แห่งความรัก) ดอกลิลลี่ (สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์) หรือดอกโบตั๋น (สัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง)
  3. สีที่เป็นสิริมงคล เช่น สีแดง (สัญลักษณ์ความรักและความโชคดี) สีขาว (สัญลักษณ์ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา) หรือสีทอง (สัญลักษณ์ความมั่งคั่งร่ำรวย)
  4. เทียนซึ่งมักใช้เพื่อสร้างบรรยากาศโรแมนติกและใกล้ชิด และอาจตกแต่งด้วยลวดลายสัญลักษณ์ เช่น หัวใจหรือนกพิราบ
  5. ธงทิว ลูกโป่ง และของตกแต่งตามเทศกาลอื่นๆ ที่ใช้เพื่อเพิ่มบรรยากาศการเฉลิมฉลองให้กับงานแต่งงาน และอาจเลือกใช้สีที่เป็นมงคล
  6. ภาพถ่ายหรือของที่ระลึกอื่นๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคู่รัก ซึ่งสามารถแสดงเป็นวิธีการปรับแต่งงานแต่งงานและเพิ่มสัมผัสที่ซาบซึ้ง

สถานที่จัดงานแต่งงาน​

  1. อาคารทางศาสนา เช่น โบสถ์ วิหาร หรือธรรมศาลา ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมักจะถือเป็นสถานที่มงคลสำหรับงานแต่งงาน
  2. สถานที่กลางแจ้ง เช่น สวน สวนสาธารณะ หรือชายหาด ซึ่งให้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและเงียบสงบ และอาจถือเป็นมงคลเนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและองค์ประกอบต่างๆ
  3. ห้องจัดเลี้ยงหรือพื้นที่จัดงานอื่นๆ ที่มีบรรยากาศเป็นทางการมากขึ้น และอาจตกแต่งด้วยสัญลักษณ์และสีมงคลเพื่อสร้างบรรยากาศรื่นเริง
  4. สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์หรือปราสาท ซึ่งอาจถือเป็นสิ่งมงคลเนื่องจากมีความสำคัญทางวัฒนธรรม และอาจเพิ่มความหรูหราและความสง่างามให้กับงานแต่งงาน

5. Wedding Planner

การจัดงานจะสมบูรณ์ได้ต้องมี Wedding Planner เพื่อให้ดูแลในส่วนพิธีเช้าให้ลงตัวมากขึ้น ทางเจ้าบ่าว-เจ้าสาวจะได้ไม่เหนื่อย และมีเวลาไปดูแลแขก และความเรียบร้อยในส่วนอื่นๆ และปัจจุบันนั้นก็มี Wedding Planner ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะทางเว็บไซต์ หรือทางเฟซบุ๊กเป็นต้น

6. หาร้านชุดแต่งงาน

วันแต่งงานเป็นวันที่เจ้าสาวจะต้องสวยที่สุด ดังนั้นชุดแต่งงานต้องเลือกให้เหมาะกับรูปร่างสรีระของเจ้าสาว และจะต้องเลือกร้านชุดแต่งงานไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนวันแต่งงานตามฤกษ์แต่งงาน หรือถ้าสั่งตัดก็ควรเผื่อเวลามากขึ้น เพื่อให้ได้ชุดที่ลงตัว และมีเวลาเผื่อแก้ด้วย

ชุดมงคลสมรส

  1. ใส่สีที่เป็นสิริมงคล เช่น สีแดง สีขาว สีทอง
  2. ผสมผสานลวดลายหรือการออกแบบเชิงสัญลักษณ์เข้ากับเครื่องแต่งกาย เช่น หัวใจหรือนกพิราบแห่งความรัก หรือสัญลักษณ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับคำมั่นสัญญาชั่วนิรันดร์
  3. การเลือกเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับสถานที่และธีมของงานแต่งงาน เช่น ชุดทางการสำหรับงานแต่งงานในโบสถ์แบบดั้งเดิม หรือชุดชายหาดสำหรับงานแต่งงานปลายทาง
  4. การสวมชุดแต่งงานแบบดั้งเดิม เช่น ชุดแต่งงานหรือชุดทักซิโด้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเคร่งขรึมและความสำคัญของโอกาส
  5. หลีกเลี่ยงเครื่องแต่งกายที่ถือว่าอัปมงคลหรือไม่เป็นมงคล เช่น สีดำ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับความตายหรือความโศกเศร้า

สีเสื้อมงคลในวันแต่งงาน​

  • สีแดงถือเป็นสีมงคลสำหรับงานแต่งงาน เพราะเป็นตัวแทนของความรัก ความหลงใหล และความโชคดี ในวัฒนธรรมอื่นๆ สีขาวถือเป็นสีมงคล เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และความดี 
  • สีทองยังเป็นสีที่นิยมในงานแต่งงานเพราะสื่อถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย และความหรูหรา 
  • สีอื่นๆ ที่อาจถือเป็นสีมงคลสำหรับงานแต่งงาน ได้แก่ สีชมพู สีม่วง สีเขียว และสีน้ำเงิน 
  • ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกสีสำหรับงานแต่งงานที่เป็นมงคลควรขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและวัฒนธรรมประเพณีของคู่บ่าวสาว

7. หาช่างภาพนิ่งและช่างถ่ายวีดีโอมาถ่ายในงานแต่งงาน

เนื่องจากเป็นวันสำคัญที่ไม่สามารถย้อนเวลากลับมาได้ แต่สามารถเก็บความทรงจำวันแต่งงานเป็นรูปภาพ หรือวีดีโอไว้ได้ หากอยากได้รูปสวยๆ ต้องติดต่อช่างที่เป็นมืออาชีพ แต่ควรติดต่อไว้ทันที เมื่อรู้ฤกษ์แต่งงาน เพราะช่างภาพฝีมือดีมักจะคิวแน่น

8. หาช่างแต่งหน้าทำผม

อีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้เจ้าสาวสวยสมบูรณ์แบบที่สุด ก็คือ การแต่งหน้าทำผม ให้เข้ากับชุดที่เลือกไว้ คุณควรหาช่างแต่งหน้าทำผม ที่มีความชำนาญพอสมควร และบอกรายละเอียดของทรงผม และโทนแต่งหน้าให้ชัดเจน นอกจากนั้นก่อนวันแต่งจริง จะต้องให้ช่างมาลองแต่งหน้าทำผมดูก่อน ว่าควรปรับตรงไหนบ้าง

9. เตรียมจัดทำการ์ดแต่งงาน หาของชำร่วย และของอื่น ๆ

พอรู้จำนวนแขกในงานที่แน่ชัดแล้ว ก็มาจัดเตรียมพิมพ์การ์ดงานแต่ง และหาของชำร่วยเตรียมไว้ให้พร้อม โดยจะต้องเผื่อจำนวนไว้ด้วยเล็กน้อย และหากถึงเวลาแจกการ์ดให้กับผู้ใหญ่ ควรไปแจกด้วยตัวเอง เพื่อให้เป็นสิริมงคลกับคู่บ่าว-สาว

ของชำร่วยมงคลงานแต่งงาน​

  1. ของขวัญที่เป็นตัวเงิน เช่น เงินสดหรือเช็ค ซึ่งมักจะให้ในซองสีแดงหรือ “หงเปา” ตามวัฒนธรรมจีน และเชื่อว่าจะนำโชคลาภมาให้ทั้งคู่
  2. ของขวัญที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น เกือกม้า ใบโคลเวอร์ 4 แฉก หรือสัญลักษณ์อินฟินิตี้ ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่คู่รัก
  3. ของกำนัลที่ใช้ได้จริง เช่น ของใช้ในบ้านหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งอาจถือเป็นของมงคลเพราะคู่บ่าวสาวจะใช้และชื่นชมในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
  4. ของขวัญส่วนบุคคล เช่น อัลบั้มรูปหรืออาร์ตเวิร์กที่ออกแบบเอง ซึ่งถือว่ามีความหมายเป็นพิเศษและอาจถือเป็นมงคลเพราะไม่ซ้ำใครและไม่เหมือนใคร
  5. ของขวัญแห่งประสบการณ์ เช่น การนวดของคู่รักหรือชั้นเรียนทำอาหาร ซึ่งอาจถือเป็นสิ่งมงคลเพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้คู่รักได้ใช้เวลาร่วมกันและสร้างความทรงจำที่ยาวนาน

การ์ดแต่งงานมงคล​

  1. สัญลักษณ์แห่งความโชคดี เช่น หัวใจ นกพิราบ หรือสัญลักษณ์อินฟินิตี้ ซึ่งมักใช้ในการตกแต่งบัตรเชิญและเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันของคู่รัก
  2. สีที่เป็นมงคล เช่น สีแดง สีขาว สีทอง ซึ่งอาจนำมาร่วมในการออกแบบบัตรเชิญเพื่อสร้างบรรยากาศรื่นเริงและเป็นมงคล
  3. วลีหรือบทกวีแต่งงานแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจรวมอยู่ในคำเชิญเพื่อเพิ่มความโรแมนติกและความรู้สึกซาบซึ้ง
  4. รายละเอียดส่วนตัว เช่น รูปถ่ายคู่รักหรือพระปรมาภิไธยย่อ ซึ่งอาจเพิ่มลงในบัตรเชิญเพื่อให้มีความหมายและมีเอกลักษณ์มากขึ้น
  5. ข้อมูลที่ชัดเจนและรัดกุมเกี่ยวกับงานแต่งงาน รวมถึงวันที่ เวลา สถานที่ และการแต่งกาย ซึ่งควรรวมอยู่ในบัตรเชิญเพื่อให้แน่ใจว่าแขกมีรายละเอียดที่จำเป็นทั้งหมด

10. อาหารจัดเลี้ยงและการตกแต่งภายในงานแต่ง

อาหารจัดเลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญควรเลือกร้านที่รสชาติถูกปาก เน้นให้เพียงพอต่อแขกในงาน หรือจะเลือกใช้บริการโต๊ะจีน หากจัดที่โรงแรมก็เลือกเมนูจากทางโรงแรมได้เลย และการตกแต่งภายในงาน ควรมีการกำหนดธีม และไม่ควรเกินงบประมาณที่ตั้งไ

11. วงดนตรี

วงดนตรีก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะมีเพื่อนบรรเลงในงานแต่ง เพื่อสร้างบรรยากาศในงานให้ดีขึ้น ยิ่งถ้าเป็นดนตรีสดยิ่งดี การหาวงดนตรีสดสามารถหาได้จากความชอบ ได้เลย หรือจะเลือกวงดนตรีให้ตรงกับธีมของงานเลยก็ได้ โดยส่วนใหญ่วงดนตรีจะมีให้เลือกหลายขนาด เช่น วงเล็ก วงใหญ่ สามารถเลือกได้เลยแล้วแต่งบ หรือความชอบ

12. สินสอด

สินสอด ในปัจจุบันสินสอนนั้น มีหลากหลายรูปแบบมากๆ ไม่ได้จำกัดแค่เป็นตัวเงินหรือทองอีกต่อไป มีแม้กระทั่งต้นไม้ ที่ดิน ของสะสมต่างๆ หรือแม้กระทั่ง NFT หรือ คริปโต และยังมีการแบ่งสินสอด อาจจะไม่ใช่ฝ่ายชายหามาแค่ฝ่ายเดียว อาจจะมีฝ่ายหญิงหามาด้วย หรือครึ่งๆ แต่ถ้าหากกำลังมองหาสินสอด ก็สามารถมากู้เงินกับเพื่อนแท้เงินด่วน นอกจากได้สินสอด ยังสามารถนำเงินมาลงทุน หรือเริ่มต้นชีวิตพร้อมกันทั้งคู่ได้เลย

สรุป - ขั้นตอนการแต่งงาน

โดยสรุป การวางแผนจัดงานแต่งงานในฐานะคู่รักใหม่นั้นเกี่ยวข้องกับลำดับขั้นตอนที่รอบคอบและรอบคอบ ตั้งแต่การกำหนดงบประมาณตามความเป็นจริงไปจนถึงการเตรียมการขั้นสุดท้ายในวันแต่งงาน แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่างานนี้สะท้อนถึงความรักและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ที่มีต่อกัน ความใส่ใจในรายละเอียด การจัดองค์กรที่ดี และการสื่อสารที่ชัดเจนกับผู้ขายและแขกสามารถมีส่วนช่วยให้พิธีและการต้อนรับประสบความสำเร็จได้อย่างมาก 

แม้ว่าอาจเกิดความเครียดและความท้าทายได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเป้าหมายสูงสุดคือการเฉลิมฉลองการอยู่ร่วมกันของคนสองคนในกลุ่มคนที่พวกเขารัก การปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ คู่รักสามารถดำเนินขั้นตอนการวางแผนงานแต่งงานที่ซับซ้อนได้ ทำให้วันพิเศษของพวกเขาน่าจดจำไม่เพียงแต่สำหรับตัวเองเท่านั้น แต่สำหรับทุกคนที่มีส่วนร่วมในความสุขของพวกเขา

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม