ที่ดิน ส.ป.ก. ถือเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินที่รัฐจัดสรรให้เกษตรกร แต่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์เด็ดขาด หลายคนจึงเกิดความสับสนเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 หรือที่เรียกกันติดปากว่า “โฉนดครุฑเขียว” ว่ามีความแตกต่างจากโฉนดที่ดินครุฑแดงอย่างไร สามารถนำไปซื้อขาย โอน หรือจำนองได้หรือไม่ เพื่อไขข้อสงสัยทั้งหมดและทำความเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว ที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไรกันแน่ เพื่อนแท้เงินด่วนได้รวบรวมข้อมูลสำคัญมาให้แล้ว ติดตามได้ในบทความนี้
ที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร
ที่ดิน ส.ป.ก. คือ ที่ดินที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งรัฐได้จัดสรรให้กับเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง หรือมีอยู่แล้วแต่ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้สำหรับที่ดินเกษตรกรรมเท่านั้น ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือที่เรียกว่า ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งไม่ใช่โฉนดที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์เด็ดขาด ซึ่ง ส.ป.ก. ย่อมาจาก “สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม”
เอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 มีลักษณะเด่นคือมีตราครุฑ “สีเขียว” ประทับอยู่ ทำให้คนทั่วไปนิยมเรียกกันว่า “โฉนดครุฑเขียว” เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและแยกความแตกต่างจากโฉนดที่ดินทั่วไปที่มีตราครุฑสีแดง โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกและดูแลเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ทั้งหมดคือ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งจะมอบให้กับเกษตรกรผู้มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
สิทธิของผู้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ทำอะไรได้บ้าง?
แม้จะไม่ใช่กรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ แต่ผู้ที่ได้รับเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ก็มีสิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดินผืนนั้นตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสรุปสิทธิสำคัญได้ดังนี้ครับ
- สิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรมเป็นหลัก: ผู้ถือครองสามารถใช้ที่ดินเพื่อการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ หรือทำการเกษตรในรูปแบบอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้และยังชีพได้ แต่ไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์รูปแบบอื่น เช่น การสร้างโรงงาน หรือรีสอร์ท
- ไม่ใช่กรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ: สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ ผู้ถือครองมีเพียง สิทธิ์ครอบครองที่ดิน เพื่อทำประโยชน์เท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินอย่างสมบูรณ์ จึงไม่สามารถนำไปจำหน่าย จ่าย โอน หรือกระทำการใดๆ ที่เทียบเท่ากับผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินได้
- สิทธิในการอยู่อาศัยและสร้างสิ่งปลูกสร้างที่จำเป็น: สามารถสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัย รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่มีความจำเป็นต่อการทำการเกษตร เช่น โรงเก็บพืชผล หรือคอกสัตว์ ได้บนที่ดินผืนดังกล่าว
- สิทธิในการตกทอดทางมรดก (ตามเงื่อนไข): สิทธิทำกินในที่ดิน ส.ป.ก. สามารถตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมได้ แต่มีเงื่อนไขตามกฎหมายที่ดินเกษตรกำหนดไว้ชัดเจน ไม่สามารถโอนให้ใครก็ได้เหมือนโฉนดที่ดินทั่วไป
เปรียบเทียบ ที่ดิน ส.ป.ก. (ครุฑเขียว) vs โฉนดที่ดิน (ครุฑแดง)
แม้จะไม่ใช่กรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ แต่ผู้ที่ได้รับเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ก็มีสิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดินผืนนั้นตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสรุปสิทธิสำคัญได้ดังนี้ครับ
- สิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรมเป็นหลัก: ผู้ถือครองสามารถใช้ที่ดินเพื่อการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ หรือทำการเกษตรในรูปแบบอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้และยังชีพได้ แต่ไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์รูปแบบอื่น เช่น การสร้างโรงงาน หรือรีสอร์ท
- ไม่ใช่กรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ: สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ ผู้ถือครองมีเพียง สิทธิ์ครอบครองที่ดิน เพื่อทำประโยชน์เท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินอย่างสมบูรณ์ จึงไม่สามารถนำไปจำหน่าย จ่าย โอน หรือกระทำการใดๆ ที่เทียบเท่ากับผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินได้
- สิทธิในการอยู่อาศัยและสร้างสิ่งปลูกสร้างที่จำเป็น: สามารถสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัย รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่มีความจำเป็นต่อการทำการเกษตร เช่น โรงเก็บพืชผล หรือคอกสัตว์ ได้บนที่ดินผืนดังกล่าว
- สิทธิในการตกทอดทางมรดก (ตามเงื่อนไข): สิทธิทำกินในที่ดิน ส.ป.ก. สามารถตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมได้ แต่มีเงื่อนไขตามกฎหมายที่ดินเกษตรกำหนดไว้ชัดเจน ไม่สามารถโอนให้ใครก็ได้เหมือนโฉนดที่ดินทั่วไป
| หัวข้อเปรียบเทียบ | ที่ดิน ส.ป.ก. (ส.ป.ก. 4-01) | โฉนดที่ดิน (น.ส. 4) |
|---|---|---|
| กรรมสิทธิ์ | เป็นเพียงสิทธิ์ในการเข้าทำประโยชน์ | เป็นกรรมสิทธิ์เด็ดขาด |
| การซื้อขาย/โอน | ห้ามซื้อขาย โอนได้เฉพาะทายาท | ซื้อขาย โอน จำหน่าย จ่ายแจก ได้เสรี |
| การจำนอง/กู้เงิน | จำนองกับธนาคารพาณิชย์ไม่ได้ (ยกเว้นสถาบันการเงินของรัฐตามเงื่อนไข) | จำนองกับสถาบันการเงินได้ทุกแห่ง |
| การใช้ประโยชน์ | เพื่อเกษตรกรรมเป็นหลัก | ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายตามผังเมือง |
| หน่วยงานที่ออก | สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) | กรมที่ดิน |
ที่ดิน ส.ป.ก. ซื้อ ขาย ได้หรือไม่
ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2518 (พ.ศ. 2518) มาตรา 39 กำหนดให้ที่ดินที่ได้มาโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไม่สามารถซื้อหรือขายได้ สามารถโอนหรือแบ่งย่อยได้ภายใต้พฤติการณ์เฉพาะเท่านั้น เช่น มรดก โอนไปยังสถาบันเกษตรกรรม หรือสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำธุรกรรมดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ที่ดิน ส.ป.ก. ซื้อขาย หรือโอนให้ใครได้บ้าง?
แม้ว่าสิทธิครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จะมีข้อจำกัดมากกว่าโฉนดที่ดินประเภทอื่น เช่น การที่มีสถาบันการเงินหลายแห่งที่ไม่รับ ส.ป.ก. เป็นหลักประกันในการกู้สินเชื่อโฉนดที่ดิน แต่ที่ดินส.ป.ก.ก็สามารถโอนให้กับญาติได้
- สามี-ภรรยา
- บิดา-มารดาของเกษตรกร
- บุตร
- พี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกันของเกษตรกร
- พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกันของเกษตรกร
- หลานของเกษตรกร
ที่ดิน ส.ป.ก. จำนองได้ไหม?
สำหรับการ จำนองที่ดิน ส.ป.ก. นั้น โดยหลักการแล้ว “ไม่สามารถนำไปจำนองกับสถาบันการเงินเอกชนหรือธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้” เนื่องจากที่ดิน ส.ป.ก. ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ที่สมบูรณ์ของผู้ถือครอง จึงไม่สามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง โดยเกษตรกรสามารถนำ เอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ไปใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อเพื่อการเกษตรกับสถาบันการเงินของรัฐที่เข้าร่วมโครงการกับ ส.ป.ก. ได้ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่องทางช่วยเหลือเกษตรกรให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
คุณสมบัติผู้มีสิทธิผู้ที่ได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก.
- มีสัญชาติไทย
- บรรลุนิติภาวะ หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว
- ประพฤติดี ซื่อสัตย์สุจริต
- ร่างกายสมบูรณ์ ขยันขันแข็ง
- ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอ
- ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน
- ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก.
ผู้มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก.
เพื่อให้การจัดสรรที่ดินเป็นไปตามเป้าหมายและถึงมือเกษตรกรผู้เดือดร้อนอย่างแท้จริง ส.ป.ก. จึงได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการจัดสรรที่ดินไว้ 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
เกษตรกร
ผู้ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นเกษตรกรโดยตรง แต่มีความต้องการจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างแท้จริง เช่น
- ผู้ที่ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี,
- ผู้ที่เรียนจบการศึกษาทางด้านเกษตรกรรมแต่ไม่มีทุนทรัพย์
- เป็นบุตรหลานของเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินตกทอดมาให้
สถาบันเกษตรกร
หมายถึงการรวมกลุ่มของเกษตรกรในรูปแบบต่างๆ เช่น กลุ่มเกษตรกร, สหกรณ์การเกษตร หรือชุมนุมสหกรณ์การเกษตรที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถยื่นขอรับการจัดสรรที่ดินเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกันของสมาชิกได้
สามารถขอที่ดิน ส.ป.ก. ได้เท่าไหร่
หากคุณเป็นเกษตรและอยากจะขอทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. คุณต้องดำเนินการส่งเรื่องขอที่ดิน ส.ป.ก. ก่อน ซึ่งคุณสามารถขอได้ตามรายละเอียดดังนี้
- เกษตรกรและบุคคลในครอบครัวเดียวกันสามารถครอบครองที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ไม่เกิน 50 ไร่
- เกษตรกรและบุคคลในครอบครัวเดียวกันได้รับอนุญาตให้ครอบครองที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ไม่เกิน 100 ไร่ เพื่อการเลี้ยงสัตว์ใหญ่โดยเฉพาะ ทั้งนี้ ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- สถาบันเกษตรกรอาจได้รับที่ดินในจำนวนที่เหมาะสมตามที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปค.) กำหนด
- กรณีที่ดินราชพัสดุหากมีเกษตรกรถือครองเกินกว่าจำนวนที่กำหนดก่อนประกาศใช้บังคับตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2524 สามารถถือครองที่ดินได้สูงสุดไม่เกิน 100 ไร่ โดยจำนวนการถือครองที่ดินรวมกันของเกษตรกรดังกล่าวไม่เกินเกณฑ์ดังกล่าว
การออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.
สำหรับการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. นั้นมีทั้งหมด 2 กรณี คือกรณีของที่ดินที่ได้รับเป็นประเภทที่ดินของรัฐและเอกชน โดยมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้
- ประเภทที่ดินของรัฐ ส.ป.ก.จะออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01 ข) ให้กับเกษตรกร (ระเบียบ คปก. ว่าด้วย การออก แก้ไขเพิ่มเติม เพิกถอน และออกใบแทนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2540)
- ประเภทที่เอกชน ที่ดิน ส.ป.ก.ได้มาโดยการจัดซื้อหรือเวนคืน ส.ป.ก. จะจัดทำสัญญาเช่าที่ดิน (ส.ป.ก. 4-14 ก) หรือสัญญาเช่าซื้อที่ดิน (ส.ป.ก. 4-18 ข) กับเกษตรกร
ประโยชน์กับที่ดิน ส.ป.ก.ที่สามารถทำได้
สิทธิประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ที่เกษตรกรสามารถทำได้และสิ่งที่ไม่ควรทำในที่ดิน ส.ป.ก. มีทั้งหหมดดังนี้
- ผู้รับที่ดินต้องใช้ประโยชน์เอง และไม่ควรทำหนังสือ สัญญาซื้อขายที่ดิน เช่า หรือให้เช่าช่วงแก่ผู้อื่น
- อนุญาตให้ก่อสร้างบ่อได้ แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 5 ของพื้นที่ดินทั้งหมดที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดินที่ขุดในระหว่างขั้นตอนนี้จะต้องไม่ถูกนำออกจากแปลง
- ผู้รับมอบจะต้องดูแลรักษาหลักเขตให้ถูกต้องมิให้เกิดความเสียหายหรือเคลื่อนย้าย
- สภาพของที่ดินต้องไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่เหมาะสมแก่การทำเกษตรกรรม
- อาจอนุญาตให้ก่อสร้างสิ่งก่อสร้างที่เหมาะสม เช่น บ้านหรืออาคารได้
- ผู้รับบริการต้องเต็มใจทำสัญญากับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา
- อาคารและสิ่งแวดล้อมบนที่ดินไม่ควรได้รับความเสียหายหรือเป็นอันตรายใดๆ
สรุปเกี่ยวกับที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร
ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดครุฑแดงได้หรือไม่?
ตาม กฎหมายที่ดินเกษตร ในปัจจุบัน ที่ดิน ส.ป.ก. คือสิทธิทำกินและยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน (น.ส. 4) ที่มีกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีนโยบายที่กำลังพิจารณาแนวทางในการยกระดับเอกสารสิทธิ์เหล่านี้ ซึ่งต้องรอประกาศและหลักเกณฑ์ที่เป็นทางการจากภาครัฐต่อไป
หากผู้ได้รับสิทธิเสียชีวิต ที่ดินจะตกเป็นของใคร?
สิทธิในที่ดินจะตกทอดเป็นมรดกแก่ทายาทโดยธรรมในลำดับชั้นที่ 1 ได้แก่ คู่สมรส, ผู้สืบสันดาน (บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย), และบิดามารดาของผู้ได้รับสิทธิ์ โดยทายาทจะต้องไปยื่นเรื่องเพื่อขอรับมรดกสิทธิต่อ ส.ป.ก. จังหวัด ภายใน 1 ปี
จะตรวจสอบได้อย่างไรว่าเป็นที่ดิน ส.ป.ก. หรือไม่?
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการตรวจสอบจากเอกสารสิทธิ์ ซึ่งจะระบุประเภทไว้อย่างชัดเจนว่าเป็น “หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01)” หรือหากไม่แน่ใจ สามารถนำเลขที่ดินไปติดต่อสอบถามโดยตรงที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในจังหวัดที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่
ขั้นตอนการไถ่ถอนจำนองบ้านกับคอนโดแตกต่างกันไหม
ขั้นตอนหลักในการไถ่ถอนจำนองเหมือนกันทุกประการ แต่จะแตกต่างกันที่ประเภทของเอกสารสิทธิ์ โดยบ้านและที่ดินจะใช้ “โฉนดที่ดิน” (น.ส. 4) ในขณะที่คอนโดหรืออาคารชุดจะใช้เอกสารที่เรียกว่า “หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด” (อ.ช. 2) ในการดำเนินการ
สรุปเกี่ยวกับที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร
โดยสรุปแล้ว ที่ดิน ส.ป.ก. คือสิทธิในการเข้าทำประโยชน์เพื่อการเกษตร ไม่ใช่กรรมสิทธิ์เด็ดขาด จึงมีข้อจำกัดสำคัญคือ ห้ามซื้อขาย ห้ามจำนอง (กับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป) และห้ามใช้ผิดวัตถุประสงค์ แม้จะมีข้อจำกัด แต่ก็มีข้อดีในการช่วยให้เกษตรกรผู้ยากไร้ได้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ดังนั้นผู้ที่คิดจะซื้อขายหรือครอบครองควรศึกษาข้อกฎหมายให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา สำหรับท่านที่มีสินทรัพย์ประเภทอื่นและต้องการคำปรึกษาด้านการเงิน อาจพิจารณา บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด ซึ่งมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นและสามารถให้สินเชื่อในวงเงินที่สูงถึง 130% ของราคาประเมิน







