เมื่อพูดถึงเรื่องทรัพย์สิน โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์อย่างที่ดิน หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการมีชื่อในเอกสารคือการเป็นเจ้าของที่สมบูรณ์ แต่ในทางกฎหมายและการเงินนั้นกรรมสิทธิ์มีความสำคัญสูงสุด การทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า กรรมสิทธิ์หมายถึงอะไร จะช่วยป้องกันปัญหาข้อพิพาททางกฎหมาย การถูกแย่งชิงสิทธิ์ และเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกมูลค่าทรัพย์สินเพื่อขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมการเงินได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเปรียบในภายหลัง ติดตามสาระสำคัญเกี่ยวของคำว่ากรรมสิทธิ์กับ เพื่อนแท้เงินด่วน ในบทความนี้
กรรมสิทธิ์หมายถึงอะไร
กรรมสิทธิ์ หมายถึง ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่สมบูรณ์ที่สุด (Absolute Ownership) ผู้ถือสิทธิ์มีอำนาจเด็ดขาดในการใช้สอย จำหน่าย จ่ายโอน และขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นมายุ่งเกี่ยว ซึ่งต่างจากการมีเพียงสิทธิครอบครองเพื่อทำประโยชน์ การมีกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจนอย่างโฉนดที่ดิน (น.ส.4) จึงเป็นเครื่องยืนยันความมั่นคงที่สถาบันการเงินเชื่อถือ ช่วยให้การประเมินมูลค่าสูงและทำธุรกรรมสินเชื่อได้ง่าย เพราะกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์เจ้าของไว้อย่างแน่นหนาที่สุด
สิทธิครอบครอง คืออะไร และต่างจากกรรมสิทธิ์อย่างไร
กรรมสิทธิ์ หมายถึง ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่สมบูรณ์ที่สุด (Absolute Ownership) ผู้ถือสิทธิ์มีอำนาจเด็ดขาดในการใช้สอย จำหน่าย จ่ายโอน และขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นมายุ่งเกี่ยว ซึ่งต่างจากการมีเพียงสิทธิครอบครองเพื่อทำประโยชน์ การมีกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจนอย่างโฉนดที่ดิน (น.ส.4) จึงเป็นเครื่องยืนยันความมั่นคงที่สถาบันการเงินเชื่อถือ ช่วยให้การประเมินมูลค่าสูงและทำธุรกรรมสินเชื่อได้ง่าย เพราะกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์เจ้าของไว้อย่างแน่นหนา
หลังจากเข้าใจแล้วว่ากรรมสิทธิ์หมายถึงความเป็นเจ้าของที่สมบูรณ์ เราต้องมาทำความเข้าใจกับคำว่า “สิทธิครอบครอง” ซึ่งมักสร้างความสับสนอยู่บ่อยครั้ง สิทธิครอบครอง คือ การที่บุคคลยึดถือทรัพย์สินไว้โดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนเอง ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือไม่ใช่ก็ได้
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างสองสิ่งนี้คือ “ความมั่นคงของสิทธิ” โดยสามารถสรุปข้อแตกต่างได้ดังนี้
- Ownership) ส่วนสิทธิครอบครอง เป็นเพียงสิทธิในการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นๆ (Possessory Right) ซึ่งอาจยังไม่มีเอกสารสิทธิ์รับรองความเป็นเจ้าของสูงสุด
- การถูกแย่งสิทธิ์ (ครอบครองปรปักษ์) นี่คือจุดที่อันตรายที่สุดสำหรับเจ้าของที่ดิน หากที่ดินนั้นมีกรรมสิทธิ์ (โฉนด) ผู้อื่นต้องเข้ามาแย่งครอบครองอย่างเปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกัน 10 ปี จึงจะได้กรรมสิทธิ์ไป แต่ถ้าที่ดินนั้นมีเพียง “สิทธิครอบครอง” (เช่น น.ส.3) หากถูกผู้อื่นแย่งการครอบครองเพียงแค่ 1 ปี เจ้าของเดิมอาจเสียสิทธิครอบครองนั้นไปทันที
- การทำนิติกรรม การโอนกรรมสิทธิ์จะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะสมบูรณ์ตามกฎหมาย แต่การโอนสิทธิครอบครองสามารถทำได้เพียงแค่การส่งมอบการครอบครองให้แก่กัน (แม้ในทางปฏิบัติ ที่ดินมือเปล่าบางประเภทก็มีการจดทะเบียนสิทธิครอบครองได้ แต่ความหนักแน่นทางกฎหมายก็น้อยกว่ากรรมสิทธิ์)
ในมุมมองของสถาบันการเงิน การปล่อยสินเชื่อให้กับที่ดินที่มีเพียงสิทธิครอบครองมีความเสี่ยงสูงกว่าที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์มาก เนื่องจากความไม่แน่นอนของสิทธิ และความเสี่ยงในการถูกเพิกถอนสิทธิหากทับซ้อนกับพื้นที่ป่าหรือที่สาธารณะ
เอกสารสิทธิ์แบบไหนคือกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง
เอกสารสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยมีหลายประเภท แต่ไม่ใช่ทุกใบจะแสดงถึงความเป็นเจ้าของที่แท้จริง การดูตราครุฑและรหัสเอกสารจึงสำคัญมาก เพื่อให้มั่นใจว่าท่านถือครองกรรมสิทธิ์ไม่ใช่แค่สิทธิครอบครอง
โฉนดที่ดิน (น.ส.4) : เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่สมบูรณ์
โฉนดที่ดิน หรือ น.ส.4 (ครุฑแดง) คือเอกสารที่สำคัญที่สุดที่แสดงว่าผู้ถือมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนั้นอย่างสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ผู้ถือกรรมสิทธิ์มีสิทธิใช้สอย จำหน่าย จ่าย โอน และขัดขวางผู้บุกรุกได้อย่างเต็มที่
จุดเด่นของโฉนดที่ดิน (น.ส.4) คือมีการระวางแผนที่รังวัดปักหลักเขตที่แน่นอน ทำให้ทราบตำแหน่งและอาณาเขตที่ชัดเจน ลดปัญหาข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดิน เมื่อกรรมสิทธิ์หมายถึง ความชัดเจนและความสมบูรณ์ทางกฎหมาย โฉนดที่ดินจึงเป็นหลักทรัพย์ที่สถาบันการเงินและบริษัทสินเชื่อให้ความเชื่อถือมากที่สุด ให้ราคาประเมินสูง และอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายที่สุด เพราะกรรมสิทธิ์ในโฉนดสามารถจดทะเบียนจำนอง ขายฝาก หรือทำธุรกรรมโอนได้ทันทีที่สำนักงานที่ดิน
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) : เป็นแค่สิทธิครอบครอง
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ น.ส.3 (ครุฑดำ) หรือ น.ส.3 ก. (ครุฑเขียว) เอกสารเหล่านี้ ไม่ใช่ เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์แต่เป็นเพียงหนังสือรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการทำประโยชน์ในที่ดินนั้นๆ แล้ว ซึ่งผู้ถือมีเพียง “สิทธิครอบครอง” เท่านั้น
แม้ว่า น.ส.3 ก. (ครุฑเขียว) จะมีความใกล้เคียงกับโฉนดเพราะมีการระวางรูปถ่ายทางอากาศ แต่สถานะทางกฎหมายก็ยังคงเป็นเพียงสิทธิครอบครอง การซื้อขายหรือจำนองทำได้ แต่มีความเสี่ยงสูงกว่าและขั้นตอนอาจซับซ้อนกว่าในบางกรณี ที่สำคัญคือมีความเสี่ยงเรื่องการถูกแย่งสิทธิครอบครองได้ง่ายกว่า (เพียง 1 ปี) หากต้องการความมั่นคงสูงสุด ควรยื่นเรื่องขอออกโฉนดเพื่อเปลี่ยนจากสิทธิครอบครองให้กลายเป็นกรรมสิทธิ์ที่สมบูรณ์
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน สามารถนำทำอะไรได้บ้าง
เมื่อเราเข้าใจชัดเจนแล้วว่ากรรมสิทธิ์หมายถึงอำนาจเด็ดขาดในทรัพย์สิน ข้อดีที่สุดของการมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน (โฉนด น.ส.4) คืออิสระในการบริหารจัดการสินทรัพย์เพื่อสร้างโอกาสทางการเงิน
- การซื้อขาย การมีกรรมสิทธิ์ทำให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจ การซื้อขายที่ดินที่มีโฉนดสามารถทำได้รวดเร็วที่กรมที่ดิน ผู้ซื้อพร้อมจ่ายในราคาตลาดหรือสูงกว่า เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องที่ดินทับซ้อนหรือสิทธิที่ไม่สมบูรณ์
- การขายฝาก เป็นธุรกรรมที่กรรมสิทธิ์ตกไปยังผู้รับซื้อฝากทันที แต่เปิดโอกาสให้ผู้ขายฝากไถ่ถอนคืนได้ภายในกำหนดเวลา หากไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจน การทำขายฝากแทบจะเป็นไปไม่ได้ในระบบที่ถูกกฎหมาย
- การจำนอง เป็นวิธีที่นิยมที่สุดในการใช้กรรมสิทธิ์เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยการนำโฉนดไปจดทะเบียนค้ำประกันหนี้ โดยที่ผู้กู้ยังคงได้อยู่อาศัยและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นต่อไป ไม่ต้องส่งมอบการครอบครอง
- การใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อส่วนบุคคล ในปัจจุบันมีสินเชื่อรูปแบบใหม่ที่ใช้เพียง “โฉนดที่ดิน” เป็นหลักประกันโดยไม่ต้องจดจำนอง ซึ่งอาศัยความน่าเชื่อถือของกรรมสิทธิ์ในการอนุมัติวงเงิน
การที่กรรมสิทธิ์หมายถึงความมั่นคง ทำให้สถาบันการเงินกล้าปล่อยวงเงินกู้ที่สูง (High LTV) และให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) อย่างมาก การรักษากรรมสิทธิ์ให้ปลอดภาระจึงเปรียบเสมือนการมี “บัตรเครดิตวงเงินสูง” ติดตัวที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เมื่อมีความจำเป็นฉุกเฉิน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์
กรรมสิทธิ์ต่างจากสิทธิครอบครองในแง่ของกฎหมายอย่างไร
กรรมสิทธิ์คือความเป็นเจ้าของสมบูรณ์ที่มีกฎหมายคุ้มครองสูงสุด (เช่น โฉนด น.ส.4) สามารถโอนหรือจำนองได้ทันที ส่วนสิทธิครอบครอง (เช่น น.ส.3) เป็นเพียงสิทธิ์ในการทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งมีความมั่นคงน้อยกว่าและเสี่ยงต่อการถูกผู้อื่นแย่งสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ได้ง่ายกว่าหากปล่อยทิ้งร้างเพียง 1 ปี
ที่ดิน น.ส.3 หรือ น.ส.3 ก. สามารถขอเปลี่ยนเป็นโฉนดกรรมสิทธิ์ได้หรือไม่
สามารถทำได้ โดยเจ้าของที่ดินต้องนำหลักฐานไปยื่นคำขอที่สำนักงานที่ดินจังหวัดเพื่อทำการรังวัดและออกโฉนดใหม่ การเปลี่ยนเป็นโฉนด (น.ส.4) จะช่วยให้ระบุอาณาเขตได้ชัดเจนขึ้น เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน และทำให้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้นเนื่องจากมีความเชื่อมั่นในเอกสารสิทธิ์
การกู้เงินด้วยโฉนดที่ดิน (กรรมสิทธิ์) จำเป็นต้องจดจำนองที่กรมที่ดินเสมอไปหรือไม่
ไม่จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อ ปัจจุบันมีบริการสินเชื่อโฉนดที่ดินที่ใช้โฉนดค้ำประกันโดยไม่ต้องไปจดจำนองที่กรมที่ดิน ช่วยลดค่าธรรมเนียมและความยุ่งยากในการทำนิติกรรม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วนและมีความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นอย่างถูกต้อง
สรุปบทความ
ความเข้าใจว่ากรรมสิทธิ์หมายถึงอะไร คือพื้นฐานสำคัญในการรักษาและต่อยอดทรัพย์สินของคุณ หากคุณมีโฉนดที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง และกำลังมองหาเงินทุนหมุนเวียน แต่ไม่อยากยุ่งยากกับขั้นตอนการจดจำนองที่กรมที่ดิน หรือกังวลเรื่องประวัติทางการเงิน เพื่อนแท้ เงินด่วน พร้อมเป็นคำตอบให้คุณ เราให้บริการสินเชื่อโฉนดที่ดินที่ให้วงเงินสูงถึง 130% ของราคาประเมิน โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาไปกรมที่ดิน ไม่เช็กแบล็กลิสต์หรือเครดิตบูโร อนุมัติไว ดอกเบี้ยเป็นธรรม ช่วยให้คุณเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในมือให้กลายเป็นเงินทุนเสริมสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ปรึกษาเราได้ทันที เพื่อทางออกทางการเงินที่จริงใจเหมือนเพื่อนแท้







